'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! 600010


'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! 600010

Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

เข้าสู่ระบบ(Log in)

'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

power_settings_newLogin to reply
+10
Character
-MiDNigHT-
saramrder
the_puk
fatezero
LeMoNaTe
l3LiZT
wasita123
looknung
-:-BlueFare-:-
14 posters

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! Empty'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! Image
สยองขวัญ



รวมเรื่องสยองขวัญ ต่างๆ นาๆ ทั้งในประเทศ และ นอกประเทศ
รวมคลิปสยองขวัญต่างๆ นาๆ ทั้งในประเทศ และ นอกประเทศ
มาให้อ่านกัน อาจมีใครๆ หลายคน ชอบแนว มิติลี้ลับ แนวสอยงขวัญ
เลยหามาให้อ่านกัน โดยไม่ต้องเปลืองแรงไปหาที่อื่นๆ


หากใครมีเรื่องสยองขวัญก็เอามาแบ่งกันได้ นะครับ



เพลงประจำกระทุ้



ุถ้าสนุกกด+ ให้ด้วยนะคัฟ




-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
10 อัญดับผีเฮี้ยนที่สุดในโลก


อันดับ 10 ปรากฏการณ์แม่มดเบลล์ (The bell witch)

ที่ตั้ง เมืองอดัมส์ มลรัฐเทนเนสซี อเมริกา

ในปี ค.ศ.1817 สถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อปรากฏการณ์หลอนที่มีชื่อที่สุดในอเมริกา ผู้คนทุกสารทิศพากันหลั่งไหลมาชม รวมไปถึงประธานาธิบดีด้วย
ซึ่งก็ไม่เคยผิดหวังทุกคนได้เห็นกันทั่วหน้า ซึ่งว่ากันว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากหญิงชราชื่อ เคท แบทส์ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของครอบครัวเบลล์
เธอเจ็บแค้นมากเมื่อครอบครัวนี้โกงเธอในการซื้อขายที่ดิน ดังนั้นก่อนตายเธอได้สาปแช่งว่าถ้าเธอเป็นผีฉันจะให้ดู และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ครอบครัวของเบลล์ต้องประสบเคราะห์กรรมต่างๆ นาๆ จากผีที่มองไม่เห็นไม่ว่าจะเป็น ข้าวของแตกกระจาย เข็มทิ่มตามร่างกาย นมหกเลอเทอะ
ดึงผ้าคลุมจากเตียง การทุบตี แถมเสียงหัวเราะสยองแกล้งแบบสะใจ แม้กระทั่งตอนสมาชิกในครอบครัวตายผีตนนี้ยังไม่วายที่จะแสดงอิทธิฤทธิ์
หัวเราะร้องเพลงอย่างเริงร่าและดังยาวนานจนผู้ร่วมพิธีศพคนสุดท้ายออกจากงาน ฝังศพ

แม้ทุกวันนี้ครอบครัวเบลล์จะหมดรุ่นไปแล้วเกือบ 200 ปี ก็ตาม แต่ทุกวันนี้วิญญาณยังปรากฏตัวอยู่ เนื่องจากมีผู้พบเห็นปรากฏการณ์แปลกๆ
ภายในถ้ำแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในบริเวณครั้งหนึ่งที่เคยเป็นสมบัติของเบลล์

อันดับ 9 ผีที่บ้านเลขที่ 50 เบิร์กเลย์สแควร์ (50 Berkeley Square)

สถานที่ตั้ง บ้านเลขที่ 50 เบิร์กเลย์ สแควร์ กรุงลอนดอน

ผีที่นี่ดุจริงๆ เพราะมันทำให้เหยื่อเคราะห์ร้ายต้องสังเวยให้กับมัน แม้ไม่มีใครทราบที่มาแต่หลายคนต่างโดนมันฆ่าถ้าใครก็ตามที่มานอนพักบ้านร้าง
หลังนั้น เช่นในปี 1887 กะลาสีสองคนชื่อเอ็ดเวิร์ด บลันเดนและโรเบิร์ต มาร์ติน ได้อาศัยบ้านหลังนี้พักชั่วคราวและต่อมากลางคืนบลันเดนก็พบเห็น
ผีและสู้กับมันส่วนมาร์ตินหนีออกมาเพื่อแจ้งตำรวจและเมื่อกลับมาก็พบบลันเดน ตายอยู่บ

ันไดชั้นล่างในสภาพคอหัก ดวงตาเบิกโพลง นอกจากนั้น
จอร์จ แคนนิ่ง นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ก็โดนด้วยและ เสียชีวิตในปี 1827

ปัจจุบันคนละแวกแถวนั้นมักตกใจเสียงทุบและเสียงกระแทกปึงปังในบางคืน

อันดับ8 บ้านอมิตี้วิลล์ (Amityville House)

สถานที่พบเจอ บ้านเลขที่ 112 โอนอเวนิว อเมริกา

บ้านอมิตี้วิลล์ โอนอเวนิว เป็นบ้านทรงดัทซ์ โคโลเนียล หน้าตาเหมือนโรงนาทรงสูงที่ที่สวยงามมากหลังหนึ่ง ถูกสร้างตั้งแต่ปี 1924 แต่เมื่อ
13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1974 เกิดการฆาตกรรมหมู่ครอบครัวหนึ่งจากนั้นเป็นต้นมาที่นี่ก็กลายเป็นบ้านผีดุ ไปในบัดดล

โดยที่โด่งดังที่สุดคือกรณี
ของครอบครัวของจอร์จ ลัทซ์ก็อาศัยอยู่บ้านหลังนี้และพบเหตุการณ์ประหลาดแทบทุกคืนไม่ว่าจะเป็น เสียง รอยเท้า ผีอำ ฯลฯ นอกจากนั้น ไม่ว่า
ใครหน้าไหนเอาเรื่องนี้มาแต่งเป็นนิยายหรือทำเป็นหนังจะโดนคำสาป เห็นได้จาก เคยมีคนนำเรื่องอมิตี้วิลล์มาสร้างหนังปรากฏว่าหลายคนในกอง
ถ่ายต่างประสบเคราะห์กรรมต่างๆ นาๆ ไม่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์ลึกลับ เจ็บไข้ ได้ป่วย หรือแม้กระทั่งตายอย่างลึกลับ (ปัจจุบันเราสามารถหาดู
เรื่องนี้จากหนังเรื่องผีทวงบ้านครับ) ระวังจะโดนคำสาบ!!

อันดับ 7 เดอะ ฟลายอิ้ง ดัชท์แมน (Flying Dutchman)

สถานที่พบเจอ แหลม Good Hope ฮอลแลนด์ และท้องทะเลทั่วโลก(ไทยก็เคยเจอ)

เป็นเรือปีศาจที่ปรากฏตัวให้เห็นบ่อยๆ ในทั่วโลกมาแล้วหลายร้อยปี เดิมคือ เรือ Flying Ducthman เป็นของกัปตัน Van Der Decken ที่นิสัยไม่ดี
โดยเขาหายสาปสูญที่แหลม Good Hope ก่อนหายได้ตะโกนขึ้นว่า "ข้าจะยังคงวนเวียนอยู่ที่แหลมแห่งนี้ ถึงแม้ว่าข้าจะต้องล่องเรือจนถึงวาระสุด
ท้ายของโลกก็ตาม" และนับจากนั้นเป็นต้นมาผู้คนทั่วโลกก็พบเรือปีศาจแบบนี้ และว่ากันว่าเรือใดที่เห็นเรือปีศาจนี้จะต้องรับความพินาศ โดยในปี
1881 คนประจำเรือเจ้าชายจอร์จที่ 5 เห็นเรือนี้จากนั้นไม่นานเขาก็พลัดตกเสากระโดงเรือตาย.... ทุกวันนี้ก็ยังมีคนกล่าวอ้างอยู่เสมอว่าเห็นเรือ
ฟลายอิ้ง ดัทช์แมนยังคงรอนแรมอยู่เดียวดายกลางทะเลด้วยรูปลักษณ์อันเศร้าโศกและสยด สยอง ริชาร์ด วากเนอร์ คีตกวีชื่อก้องโลกได้อาศัย
ตำนานปีศาจนี้แต่งอุปรากรที่มีชื่อว่า Der Fliegende Hollander

อันดับ 6 วิญญาณที่โบลถ์บอร์ลีย์ (Borley Rectory)

สถานที่พบเจอ กรุงลอนดอนทางตะวันออกเฉียงเหนือ 60 ไมล์ แถบชานเมืองเอสเซกซ์(ปัจจุบันโดนทุบทิ้งแล้ว)

เมื่อปี ค.ศ.1362 นักบวชนิกายเบเนดิกทีนและแม่ชีจากสำนักชีในละแวกนั้นถูกพ่อมดหมอผีและชาว บ้านที่งมงา

ยจับสองคนไปฆ่าโดยนักบวชถูก
แขวนคอส่วนแม่ชีถูกฝังทั้งเป็นภายในผนังของสำนักชี ซึ่งต่อมาก็ได้กลายเป็นโบสถ์แห่งบอร์เลย์ในปี 1863 และหลังจากนั้นเหตุการณ์ประหลาดก็
เกิดขึ้นต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นก้อนหินที่ขว้างไปโดยไม่รู้ที่มา รอยเท้าประหลาด เสียง และภาพหลอนขนาดปรากฏตัวในตอนกลางวันแสดๆ เลยก็มี
โดยปี 1929 เธอปรากฏตัวถี่ขึ้นและเริ่มเห็นเต็มตัวโดยในลักษณะแต่งกายเป็นชีและท่าทางใบ หน้าเศร้

าหมองร้องขอให้มีผู้พบศพเธอเพื่อประกอบ
พิธีทางศาสนา และมีผู้ถ่ายรูปเธอออกมาเพียบ จนกระทั่งคืนวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1939 ก็เกิดเพลิงไหม้ตอนเที่ยงคืนและเผาโบสถ์จนเหลือเพียง
ซากและโบสถ์ก็โดนทุบทิ้งจนผีไม่ปรากฏตัวออกมาอีกเลย

อันดับ 5 วิญญาณสีชาด
กษัตริย์เฮนรีที่ 4
สถานที่พบเจอ ฝรั่งเศส ???

วิญญาณสีชาดตนนี้ไม่มีที่มา แต่มันสำแดงตนเสมอในช่วงเปลี่ยนกษัตริย์ของฝรั่งเศส เป็นร่างของชายสูงใหญ่ ใส่เสื้อคลุมสีชาด มีเครายาวสีชาด
เช่นกัน ร่างนี้ไปปรากฏต่อพระพักตร์ของกษัตริย์เฮนรีที่ 4 แห่งฝรั่งเศส ในคืนที 13 พฤษภาคม 1610 ในห้องพระบรรทมของกษัตริย์เฮนรีเลยทีเดียว
แล้วมันก็กล่าวคำพยากรณ์ว่า "พรุ่งนี้เจ้าจะต้องตาย" พระองค์ตกใจมากและรีบเรียกตัวขุนนางผู้ใหญ่มาหารือเพื่อหาทางแก้ไข และอีก 12 ชั่วโมงต่อมา
เฮนรีก็ถูกผลักตกจากบัลลังก์จริงตามคำพยากรณ์เพราะฟรองซัวราวิลแย็คทำการรัฐ ประหาร นอกจากนี้วิญญาณตัวนี้ยังสำแดงตนให้นโปเลียน โปนา
ปาร์ตเห็นถึง 4 ครั้ง และครั้งที่ 4 คือคืนวันที่ 5 พฤษภาคม 1821 ก็เป็นวันตายของนโปเลียนนั้นเอง

อันดับ 4 ผีชุดขาวแห่งเบอร์ลิน (Ghost White of The Berlin)

สถานที่พบเจอ เยอรมัน ฝรั่งเศส ??

ว่ากันว่าเป็นวิญญาณของอันนา ซิโดว์ ภรรยาลับของกษัตริย์โจอาคิมที่ 2 ในศตวรรษที่ 16 ที่ถูกจับขังจนถึงแก่กรรม ซึ่งใครก็ตามที่ได้เห็นวิญญาณ
หญิงสีขาวเมื่อไหร่คนในราชวงศ์นั้นจะประสบเคราะห์กรรม เช่นปี 1619 มหาดเล็กของกษัตริย์จอร์น ซิกมุนด์เห็นร่างสีขาวก่อนที่จะตายโดยอุบัติเหตุ
จากนั้นกษัตริย์จอห์น ซิกมุนด์ก็สวรรคต, นอกจากนั้นกษัตริย์หลายพระองค์ก็เห็นวิญญาณนี้ปรากฏที่รัสเซีย ปารีส และครั้งสุดท้ายที่ปรากฏคือวันที่
29 เมษายน 1945 ซึ่งเป็นวันล่มสลายของนาซีเยอรมันที่เบอร์ลินพอดี!!
อันดับ 3 วิญญาณที่เรือควีนแมรี่ (Queen Mary)

สถานที่พบเจอ เรือควีนแมรี่(ปัจจุบันถูกจอดไว้ที่เมืองลองบีช โดยดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์ โรงแรม)

ควีนแมรี่เป็นเรือใหญ่มากลำหนึ่งในประวัติศาสตร์อังกฤษ เคยถูกนำมาใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วถูกปลดระวางในปี 1967 เพื่อนำไปทำโรงแรม
ซึ่งมีเรื่องเล่ากันว่าถ้าใครตายในเรือแมรี่มีอันต้องเป็นผีเฝ้าเรือทุกตน โดยมีผู้พบเห็นผีนี้ตามจุดทั่วเรือในลักษณะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรอยเท้าที่เปียก
น้ำ เด็กน้อยตามหาแม่และหายตัวไปต่อหน้า สตรีในชุดราตรีโบราณ ฯลฯ

อันดับ 2 วิญญาณของพระนางแคทเธอรีน โฮวาร์ด (Catherine Howard)

สถานที่พบเจอ หอคอยลอนดอน ประเทศอังกฤษ

แม้พระนางจะโดนสำเร็จโทษหลังอภิเษกกับพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ได้เพียง 8 เดือน ไปตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 1542 แล้วก็ตาม ระเบียงของพระราชวัง
แฮมตัน คอร์ท พาเลสทุกวันนี้ยังมีเสียงร้องโหยหวนในยามดึกเสมอ นอกจากนี้ยังสิงสู่อยู่ที่อีธอร์น มาเนอร์ ฮอลลิงบอร์น เค้นท์อีกด้วย

อันดับ 1 วิญญาณของพระนางแอนน์ โบลีน (Anne Boleyn the headless Queen)

สถานที่พบเจอ หอคอยลอนดอน ประเทศอังกฤษ (รูปถ่ายนี้ถูกถ่ายในธันวาคม ที่ศาล Hampton ใกล้ลอนดอน)

พระเจ้าเฮนรีที่ 8 นี้ช่างเป็นต้นเหตุสร้างเรื่องสยองจริงๆ เมื่อพระนางแอนน์ โบลีนพระมเหสีองค์ที่สองถูกสำเร็จโทษ 19 พฤษภาคม ปี 1536 โดยก่อน
ตายนางกล่าวว่า "โอ้ ความตาย นำข้าให้หลับใหล พาข้าให้พักอย่างเงียบสงัด นำข้าไปสู่ผี..ที่สุดแสนจะเงียบงัน ออกไปจากอกของข้าที่ห่วงหา
อาทร ย่ำระฆังความตายที่เศร้าสร้อย ปล่อยให้มันก้องกังวาน"

ว่ากันว่าวิญญาณของพระนางจะกลับมาที่ บลิคลิง ฮอลล์ ในนอร์ฟอล์ค ในวันครบรอบที่พระนางถูกสำเร็จโทษ ซึ่งสถานที่แห่งนั้นพระนางเคยใช้
ชีวิตในวัยเยาว์ที่นั้นเลยผูกพันเป็นพิเศษ ซึ่งมีรายงานปรากฏวิญญาณของพระนางไปยังสถานทีประสูติไม่ว่างเว้น โดยผู้คนมักเห็นร่างของหญิงสูง
ศักดิ์ปราศจากศีรษะ นั่งอยู่ในรถม้าที่ลากโดยม้าที่ปราศจากหัวสี่ตัว และคนขับซึ่งไม่มีหัวเช่นกัน รถม้าจะวิ่งช้าๆ ไปยังอาคารโบราณที่บลิงตันและ
หายลับไปยังประตูหน้า นอกจากนี้พระนางยังปรากฏอยู่ที่หอคอยแห่งลอนดอนอีกด้วย โดยผู้ใดที่อยู่ตรงข้ามพระนางจะพลอยได้พบหายนะไปด้วย
เสียสิ้น โดยใครพบเจอคนนั้นอาจหัวใจวายตายในเวลาไม่นาน ไม่ก็เสียสติ

Cedit : รับปันความหลอน l3nzTom
ยังมีอีกเป้นคลัง ถ้าชอบก็บอกจาได้เอาลงให้ดู :หึหึ:

แก้ไขล่าสุดโดย -:-MarshMalloly-:- เมื่อ Wed Nov 03, 2010 9:48 pm, ทั้งหมด 4 ครั้ง

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
13 บ้านผีที่ขึ้นชื่อสุดของไทย(ฉบับหลอนของคนไทยวัยหลอน)


1 . สุสานโสเภณี จ.กาญจนบุรี
สถานบันเทิงเก่าแก่ของจังหวัด
เปิดให้บริการกับผู้ชายที่มีความต้องการทางเพศได้มาใช้บริการ
ที่แห่งนี้มีหญิงบริการถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวถูกบังคับให้รับแขกอย่างทารุณ
ไม่ได้พักผ่อน บ้างก็ถูกทำร้ายร่างกาย
บ้างก็เป็นโรคร้ายจนสุดท้ายหญิงสาวทั้งหมดได้เสียชีวิตลงที่นี้อย่างมากมาย
จนเราเรียกได้ว่าเป็น “สุสานโสเภณี”
ซึ่งชาวบ้านบริเวณนั้นมักได้ยินเสียงผู้หญิงและเด็กร้องขอความช่วยเหลือ
เมื่อเช้าไปดูก็ไม่พบใครเลย


2. บ้านผีมอญ จ.กาญจนบุรี คู่สามี-ภรรยาเจ้าของบ้านเป็นคนมอญที่มีนิสัยหวงของมาก จะดุด่าคนที่แอบมาขโมยผลไม้ในสวน ด้วยความที่เป็นคนหวงของและดุด่าเก่งมาก จึงทำให้ ถูกฆ่าตายแล้วนำศพมาทิ้งไว้ที่ท้ายสวน วันหนึ่งมีคนเข้ามาเก็บผลไม้ในสวน แกก็ตามไปทวงถึงบ้าน จนคนที่เก็บไปรีบนำมาคืนแทบไม่ทัน นอกจากจากยังมีศพชาวกะเหรี่ยง 9 ศพ ที่ถูกวิสามัญฝังอยู่บริเวณบ้านหลังนี้


3. บ้านผมผี จ.กาญจนบุรี หญิงผู้เป็นเจ้าของบ้านตัดสินใจลาบวชด้วยความเสียใจที่คนในบ้านตายที่ละคน โดยไม่ ทราบสาเหตุ หลังจากนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ปล่อยบ้านทิ้งไว้จนกลายเป็นสภาพบ้านร้าง ชาวบ้านบริเวณนั้นนึกว่าเจ้าของบ้านเสียชีวิตไปแล้ว จึงเข้าไปดูในบ้าน ปรากฏว่าเส้นผมเต็มไปหมด บางคนก็ได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ในบ้าน


4. โรงพยาบาลสยอง จ.ระยอง ด้วยพิษทางเศรษฐกิจเมื่อหลายปีก่อน ทำให้โรงพยาบาลแห่งนี้ปิดกิจการลงกลายเป็นโรงพยาบาลร้างในที่สุด ในเวลากลางคืนชาวบ้านมักเห็นไฟเปิดสว่างเต็มไปหมด บางคนก็เข้าไปเห็นเตียงนอนคนไข้เข็นเองได้ กลายเป็นเรื่องราวชวนสยองเลื่องลือถึงกิตติศัพท์ความน่ากลัวมาถึงปัจจุบัน


5. สุสานศพไร้ญาติ จ.ชลบุรี ศพไร้ญาติทั้งหลายเหล่านี้ถูกนำมาขุดหลุมฝัง เป็นสุสานไร้ญาตินับร้อยนับพันขุดเรียงรายกันเป็นทิวแถวยาว หลายๆคนเล่ากันว่าเป็น ฮวงซุ้ยที่เฮี้ยนมาก


6. บ้าน 4 ศพ จ.ชลบุรี ครอบครัวหนึ่งประกอบด้วย พ่อ แม่ และลูก 2 คน เดินทางไปท่องเที่ยว แต่ระหว่างทางประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำเสียชีวิตทั้งหมด บ้านหลังนั้นกลายเป็นบ้านร้าง แต่คนที่ผ่านไปมาเห็นเงาคนเหมือนมีคนอยู่ในบ้านอยู่เสมอ และยังเป็นที่พบศพถูกฆาตกรรมอย่างปริศนา และมีห่วงเชือกผูกเป็นปมมัดอยู่ในบ้างหลังนั้น


7.บ้านผีนายพล จ.ชลบุรี เป็นบ้านพักตากอากาศชายทะเลที่ครอบครัวนายทหารมาพักผ่อน และถูกฆาตกรรมทั้งครอบครัว ศพทั้งหมดถูกยัดไว้ในห้องใต้ดินของบ้านพักต่างอากาศหลังนี้ มีคนเคยเห็นควันธูปลอยขึ้นมาในบริเวณบ้านหลังนี้ด้วย

8.บ้านผียาย สรวง จ.อยุธยา หญิงชราเจ้าของบ้าน ผู้ชอบกินหมาก ได้เสียชีวิตลงภายในบ้าน พร้อมกับโลงศพที่พบภายในบ้านจนถึงทุกวันนี้ ผู้คนแถวนั้นยังคงได้ยินเสียงคนแก่พูด และเสียงตำหมากอยู่ทุกค่ำคืน บ้านผียายสรวง จ.อยุธยา หญิงชราเจ้าของบ้าน ผู้ชอบกินหมาก ได้เสียชีวิตลงภายในบ้าน พร้อมกับโลงศพที่พบภายในบ้านจนถึงทุกวันนี้ ผู้คนแถวนั้นยังคงได้ยินเสียงคนแก่พูด และเสียงตำหมากอยู่ทุกค่ำคืน


9. บ้านผีท่านขุน จ.อยุธยา เป็นบ้านไม้สักเก่าสมัย ร.5 หลังจากที่เจ้าของบ้านเสียชีวิต บ้านหลังนี้ก็กลายเป็นบ้านร้าง วันหนึ่งมีชาวบ้านพายเรือผ่านมา เห็นมีผู้หญิงอยู่บนเรือนแต่งชุดโบราณสมัย ร.5 เคยมีคนมาลองของที่บ้านหลังนี้ก็เจอดีกันทุกคน จนต้องมาขอขมากราบไหว้กัน



10. บ้านผีโหด อ.บางเลน จ.นครปฐม เกิดเหตุทะเลาะวิวาทฆ่ากันตาย พ่อตายิงลูกเขยเสียชีวิตลง แล้วนำศพไปทิ้งไว้ในบ่อหลังบ้าน ปัจจุบันยังคงมีคราบเลือดที่ขอบกำแพง

11. บ้านผีตายโหง หนองจอก เป็นบ้านร้างมาเกือบ 10 ปี มีการเล่ากันว่า นอกจากจะมีการฆ่ากันตายในบ้านแล้ว ยังมีผู้หญิงเข้ามาผูกคอตายในบ้านหลังนี้อีก และยังมีการนำเอาศพมาทิ้งไว้ใต้บันไดเพื่ออำพรางคดีอีกด้วย


12. บ้านตรอมใจ หนองจอก หญิงสาวเจ้าของบ้านนับถือศาสนาพุทธรับการกระทำของสามีที่นับถือศาสนาอิสลาม เกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงไม่ได้ ทั้งสองจึ่งทะเลาะวิวาทกัน ฝ่ายชายหนีออกจากบ้านไป ฝ่ายหญิงได้แต่เฝ้ารออยู่ที่บ้านจนกระทั่งล้มป่วยเพราะตรอมใจ และเสียชีวิตลงในทีสุด ชาวบ้านแถวนั้นมักได้เสียงร้องไห้คร่ำครวญของผู้หญิงเสมอ


13. บ้านเสาตกน้ำมัน จ.ราชบุรี บ้านทรงไทยที่มีเสาตกน่ำมันไหลจากข้างบนลงมาข้างล่าง ด้วยความที่เป็นบ้านร้างก็มีเถาตำลึงขึ้นเต็มไปหมด ชาวบ้านไปเก็บปรากฏว่ามีผู้หญิงใส่ชุดไทยมายืนชี้หน้าอยู่


ขอขอบคุณ DiarinA ที่ทำเรื่องมาให้ได้อ่านกัน

10 อันดับบ้านผีที่ขึ้นชื่อที่สุด



นี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง โปรกใช้วิจารณญาณในการอ่าน


1. ในซอยรามคำแหง 32 ปล่อยให้ทิ้งร้างเก่าทรุด โทรมอย่างน่าใจหาย
ประวัติของบ้านมีว่าเจ้าของบ้านเป็นชาวต่างชาติ
วันหนึ่งเจ้าของบ้านขับรถออกไปทำงานตามปกติ
ที่บ้านมีสาวใช้อยู่เพียงคนเดียว คนร้ายไม่ทราบจำนวน
ซึ่งคงมาแอบสังเกตการณ์นานพอสมควรได้ฉวยโอกาสเข้าปล้น
และฆ่าสาวใช้ตายคาที่ นับตั้งแต่นั้นมักจะได้ยินเสียงผู้หญิง
ร้องไห้ช่วยดังโหยหวนน่าสยดสยอง
และยังเห็นผู้หญิง (เข้าใจว่าเป็นสาวใช้ที่ถูกฆ่าตาย )
เดินวนเวียนวูบวาบอยู่ในบ้าน
เจ้าของบ้านทนอยู่ไม่ไหวต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น
เล่ากันว่าหลังจากนั้น
มีคนได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้ช่วย ดังมาจากบ้านร้างบ่อยๆ
และมีคนเห็นผู้หญิงลึกลับ
ยืนอยู่หน้าบ้านเป็นประจำเมื่อเข้าไปใกล้ก็หายไป


2.วัดมหาบุศย์ พระโขนง
ที่วัดมหาบุศย์ ยังมีศาลย่านาคตั้งอยู่
สืบเนื่องมาจากตำนานรักของแม่นาคพระโขนง
ที่รู้กันแพร่หลายเล่ากันว่า
เมื่อผีแม่นาคอาลวาดหลอกหลอน
จนชาวบ้านหาปกติสุขมิได้
เจ้าประคุณสมเด็จโต ( วัดระฆัง )
ได้มานำวิญญาณแม่นาคไป
พร้อมกับกระดูกกระโหลกหน้าผาก
แล้วอบรมสั่งสอนให้รักษาศีล ปฏิบัติธรรม
นัยว่าแม่นาคเลื่อนภพเป็นเทพแล้ว
หากยังมีผีวนเวียนที่วัดมหาบุศย์
คงมิใช่วิญญาณแม่นาคอย่างแน่นอน


3.ในซอยสายหยุด อู่รถเมลล์เก่า
ที่นี่เป็นสุสานรถเมลล์หรือรถโดยสารประจำทาง
ที่ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจนใช้การไม่ได้
ซากรถเมลล์แต่ละคันมีประวัติคนตายโหงคารถ
ในสภาพสยดสยองมาแล้วและเป็นที่เล่าลือกันว่า
อยู่ดีๆไฟในรถกลับเปิดสว่างขึ้นมาเอง
หรือมีคนมายืนโบกรถหน้าอู่
แท๊กซี่จะเข้าไปจอดรับก็หายไป
บางครั้งมีคนวิ่งตัดหน้า และหายไปดื้อๆ

4.ในซอยรอดอนันต์ 1 ถ.สุขาภิบาล1 เป็นบ้านร้างทรง ไทยอยู่ริมบึง***งไกลจากบ้านอื่นๆในระแวกนั้น
บริเวณบ้านรกครึ้มด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย
คุณยายเจ้าของบ้าน เสียชีวิตที่บ้านหลังนี้
และน่าเชื่อว่า วิญญาณของคุณยายไม่ยอมไปผุดไปเกิด
แต่ยังคงวนเวียนอยู่ในบ้าน จนกระทั่งลูกหลานไม่กล้าอยู่
ต่างแยกย้ายไปอยู่ที่อื่นหมด
ปล่อยบ้านทิ้งร้างชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา
และที่บ้านหลังนี้เล่าลือกันว่าผีดุนัก คนอยู่ระแวกใกล้เคียง
เคยเห็นผีคุณยายมายืนชี้นิ้วอยู่ที่หน้าบ้าน
เมื่อมีเด็กๆ วิ่งเล่นอยู่ในบริเวณหน้าบ้าน
เคยมีคนใจกล้าเข้าไปในบ้าน
ได้ยินเสียงผู้หญิงแก่ๆขู่ตะคอก
จนต้องเผ่นออกมาแทบไม่ทัน


5.รังสิต คลอง 13 จากถนนใหญ่เข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร
มีบ้านพักถูกไฟไหม้เกือบหมดทั้งหลัง
แต่ยังเหลือซากบ้านอยู่ส่วนหนึ่ง ข้อมูลบางกระแสเล่าว่า
มีผู้หญิงตายในไฟ บ้านหลังนี้อยู่ในสวนมะขามหวาน แต่ถูกทิ้งให้รกร้าง
คนในระแวกใกล้เคียงต่างยืนยันกันว่าตอนกลางคืน
จะได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องโหยหวน มาจากซากบ้านบ่อยๆ
พร้อมกันนั้นเคยมีคนเห็นผีผู้หญิงในบริเวณซากบ้านด้วย

6.ในซอยมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ถ.พัฒนาการ
เป็นโรงงานร้าง เมื่อก่อนนี้เป็นโรงงานทำปากกา
และเป็นโรงกลึงขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ 80 ไร่
เหตุที่กลายเป็นโรงงานร้าง ชำรุดทรุดโทรม
มีวัชพืชขึ้นปกคลุมรกครึ้มเช่นทุกวันนี้
ว่ากันว่าเจ้าที่เจ้าทางแรง ระหว่างที่ดำเนินงานอยู่
มีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหลายคน
ผู้ลงทุนขาดทุนย่อยยับจนต้องเลิกกิจการ
หากเดินเข้าไปในอาณาเขตโรงงานร้าง
จะสัมผัสบรรยากาศยะเยือกผิดปกติ
และเล่าลือกันว่าหากไปเคาะแท้งก์น้ำซึ่งตั้งอยู่ 3 ใบ 3 ครั้ง
จะปรากฏเจ้าที่เจ้าทางออกมาให้เห็นทันที


7.วัดปราสาท จ.นนทบุรี
เป็นวัดเก่าแก่โบราณ สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลาง
เคยขุดพบกำแพงเมืองรอบอุโบสถอายุ 300 ปี
ด้านหลังอุโบสถ มีคุ้มเก่าแก่ชำรุดทรุดโทรม
ว่ากันว่าเจ้าของสถานที่คือ พระนางอุษาวดีเทวี
ชาวบ้านระแวกนั้นเรียกว่า "แม่" และ" เจ้าแม่ "
เวลากลางคืน หากไปที่บริเวณคุ้มจะมีบรรยากาศวังเวงน่ากลัวมาก
ผู้ใดไปแสดงกิริยาวาจาจ้วงจาบหยาบคาย ไม่เคารพผู้เป็นเจ้าของสถานที่
มักจะพบกับเหตุการณ์แปลกๆน่าขนหัวลุก


8.โรงงานร้างอยู่ในอุตสาหกรรมบางปู (ฝั่งเดียวกับเมืองโบราณ)
สถานที่อยู่สุดซอย 2 เมื่อก่อนนี้เป็นโรงงานทำรองเท้า
ขณะที่กิจการกำลังดำเนินงานไปด้วยดี ได้เกิดอุบัติเหตุร้างแรง
คือเครื่องปั้มลมเกิดระเบิดคนงานหลายคนเสียชีวิตสยอง
นับตั้งแต่นั้นคนงานที่ทำงานอยู่ ถูกผีหลอกวิญญาณหลอน
จนต้องทะยอยลาออกไปเรื่อยๆจนหมด กิจการประสบความวินาศ
เจ้าของโรงงาน ยิงตัวตายในห้องทำงานชั้นบนของโรงงาน
และกลายเป็นสถานที่รกร้างเรื่อยมา เล่าลือกันว่าผีดุมาก
ปัจจุบันนี้ยังมีเศษรองเท้ากระจายเกลื่อนและปั้มลมมรณะก็ยังอยู่


9.ในซอยวัชรพล
เป็นบ้านทรงยุโรปหลังใหญ่ ซึ่งยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ
ถูกทิ้งร้างค้างคาอยู่ในสภาพเดิม เวลากลางคืนดูน่ากลัวชวนขนลุกยิ่ง
และว่ากันว่ามีคนพบเห็นวิญญาณของชายหญิงและเด็ก ปรากฏวูบวาบบ่อยๆ
สาเหตุที่บ้านหรูหลังใหญ่ กลายเป็นบ้านร้าง
เนื่องจากเจ้าของบ้านหลังนี้ พาครอบครัวขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัด
และประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิตหมดทุกคน


10.ในซอยวัชรพลเช่นกัน
เป็นหมู่บ้านร้างตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ชื่อหมู่บ้านปิยพร
คนเก่าคนแก่ในพื้นที่เล่าว่า ที่ดินส่วนนี้เคยเป็นป่าช้ามาก่อน
เจ้าของโครงการ ไม่ได้ทำพิธีบอกกล่าวขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทาง
ดังนั้นพอเริ่มงานก่อสร้าง จึงพบกับอุปสรรคนานาประการ
ต่อมามีคนงานเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุหลายคน
ในเขตหมู่บ้านมีบึงใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง ก็มีเด็กตกไปตาย 2-3 คน
ประกอบกับบ้านในโครงการ ไม่มีผู้สนใจอย่างที่ประเมินเอาไว้
จึงต้องยุติโครงการ กลายเป็นหมู่บ้านร้างกลางกรุง
พร้อมกันนั้นก็มีเสียงเล่าลือว่า ผู้ที่เข้าไปในเขตหมู่บ้านยามวิกาล
มักจะพบวิญญาณแสดงตัวหลอกหลอน
เล่นเอาขวัญหนีดีฝ่อ ไม่บังอาจกล้ำกลายเข้าไปอีก



ขอขอบคุณ DiarinA ที่ทำเรื่องมาให้ได้อ่านกัน

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
เหอะๆ หลอนจริงๆเลย โอ้ว~!! :affraid:

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
-0-. สุดยอดหลอนมากกกกกกกกกกกกก รอติดตามต่อ

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
เรื่องแบบนี้ชอบม้ากกกก 55555+
มันเร้าใจดี ได้ความเพลิดเพลิน
และทำให้ตาสว่างในมันใด 0.0

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
ใครเคยเจอเรื่องหลอนๆก้มาแบ่งปันกันมั่งนะะะะะะะะะะะะ

ป่าคำชะโนด ตำนานผีจ้างหนัง

ป่าคำชะโนด ที่แห่งนี้คือป่าศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่า ป่าคำชะโนด เป็นที่ตั้งของวัง พญานาค และ ป่าคำชะโนด เป็นป่าที่มี ต้นคำชะโนด ขึ้นอยู่แห่งเดียว ขณะเดียวกัน ป่าคำชะโนด ยังมีเรื่องเล่า ผีจ้างหนัง ทั้งนี้เรื่อง ผีจ้างหนัง จะจริงหรือไม่ ป่าคำชะโนด กำลังรอให้คุณมาพิสูจน์ที่นี่ค่ะ
ที่ แห่งนี้คือป่าศักดิ์สิทธิ์ ป่าลี้ลับ ป่าอาถรรพ์ … และคือป่าที่มีตำนาน ที่ชาวไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และชาวลาวให้ความนับถือ เพราะเชื่อกันว่าเป็นที่ตั้งของเมืองนาคินทร์ และวังพญานาค ต้นตำนานแม่น้ำโขง เป็นป่าที่มีความน่าสนใจในแง่พฤกษศาสตร์ ที่โลกต้องทึ่ง!!! กับต้นคำชะโนดที่มีอายุนับหลายร้อยปี และมีอยู่ที่เดียว ณ ป่าคำชะโนด
เคยมีคนคิดเอาต้นชะโนดไปปลูกที่อื่นนะ แต่ไม่นานก็ต้องเอากลับมาคืนที่เดิม เพราะชีวิตการงานไม่ก้าวหน้า ชีวิตครอบครัวมีแต่ความเดือดร้อน ขนาดว่าแค่เอาเมล็ด หรือส่วนใดส่วนหนึ่ง อาจจะเป็นใบแห้งๆ ออกจากป่า สุดท้ายต้องเอามาคืนกันหมด" ทองอินทร์ ปักเสติ ชาวบ้านโนนเมือง ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้ๆ กับป่าคำชะโนด กล่าว



อย่าง ไรก็ตามผืนป่าแห่งนี้กลายเป็นสถานที่เลื่องชื่อชั่วข้ามคืน เพราะเรื่องเล่า "ผีจ้างหนังที่คำชะโนด" (คนอีสานเรียก ผีบังบด หรือเมืองลับแล ไม่สามารถมองเห็นได้ทั่วไป นอกเสียจากว่าจะมีอะไรดลใจให้เห็น) …. โดยเมื่อปี พ.ศ.2532 ธงชัย แสงชัย เจ้าของบริษัทหนังเร่ดังกล่าว ได้เล่าว่า ตนเองถูกว่าจ้างจากใครคนหนึ่งให้ไปฉายหนังกลางแปลงที่งานวัด ที่หมู่บ้านวังทอง แถวป่าคำชะโนด ด้วยจำนวนเงิน 4,000 บาท แต่มีข้อแม้คือ ต้องฉายจบแค่ตี 4 ของวันใหม่ และให้ออกจากหมู่บ้านก่อนฟ้าสาง โดยห้ามหันหลังกลับมามอง...

หลังจากที่วางเงินมัดจำเสร็จ เจ้าของหนังก็จัดแจงเตรียมของอุปกรณ์สัมภาระ ฟิล์มหนังที่จะนำไปฉาย ไปกับลูกน้องอีก 4 รวมเป็น 5 คน โดยขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อมีหลังคา ออกจากตัวจังหวัดบ่ายแก่ ๆ ขับรถเข้าไปแถวป่าคำชะโนดก็เริ่มมืด ยิ่งขับไปทางเส้นทางตามที่ผู้ว่าจ้างบอกก็ไม่เห็นว่าจะเจอหมู่บ้านหรือคนที่ จะมารับ จึงนึกว่าหลงกัน ระหว่างจอดรถว่าจะย้อนกลับไปดีหรือไม่ ก็มีผู้หญิง 2 คนใส่ชุดดำมาร้องเรียกว่าจะนำไปที่วัด คนขับที่เป็นเจ้าของหนังก็รับขึ้นรถ แต่แกก็สงสัยว่า 2 คนนี้โผล่มาจากไหนในที่มืดๆ อย่างนี้ พาหนะอะไรก็ไม่มี

เมื่อขับเข้าไปในหมู่บ้านก็ยิ่งให้ชวนสงสัยใหญ่ว่า ทำไมไม่มีเสียงลำโพงออกมาจากงานวัด ไม่มีเสียง หมอลำ หรือการละเล่นอะไรเลย พอไปถึงหมู่บ้านก็มีคนมารับ แต่แปลกว่าทุกคนจะใส่เสื้อสีขาวกับดำ ถ้าเป็นผู้ชายใส่ชุดขาว ผู้หญิงใส่ชุดดำแยกให้เห็นชัดเจนแม้แต่เด็ก แต่ที่แปลกทุกคนจะทาหน้าขาวหมดเหมือนใช้ครีมพอกหน้า

เมื่อถึงที่แล้ว ทุกคนก็เริ่มตั้งจอภาพยนตร์ เดินสายไฟ และเปิดเครื่องปั่นไฟ ระหว่างที่กำลังกุลีกุจอติดตั้งก็เริ่มเห็นผู้คนทยอยมานั่งดูหนัง แต่จะแยกชายหญิงชัดเจน ไม่นั่งรวมกัน และปกติของงานวัดจะต้องมีแม่ค้าแม่ขายมาขายน้ำ ขายถั่ว ขายปลาหมึกย่าง แต่ที่นี่กลับไม่มีแม่ค้าสักคน พอติดตั้งเสร็จก็เริ่มฉายหนัง หนังที่เอาไปฉายมี 4 เรื่อง เรื่องแรกเป็นหนังสงคราม เรื่องที่ 2 เป็นหนังตลกแอ็คชั่น เรื่องที่ 3 กับ 4 เป็นหนังผี ระหว่างฉายคนพากย์ก็พยายามพากย์ยิงมุกตลกๆ แต่ไม่มีใครหัวเราะหรือแสดงอารมณ์อย่างใดเลย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไปฉายที่ไหน คนก็จะหัวเราะตลอดจนเริ่มฉายเรื่องที่ 3 ที่เป็นหนังผี สังเกตท่าทางคนที่มาดูเริ่มตั้งใจดู ทั้งที่บรรยากาศตอนนั้นก็เที่ยงคืนดูน่ากลัวมากๆ ระหว่างนั้นทางเจ้าภาพก็จัดข้าวต้มถ้วยเล็กมาให้ทีมงานฉายหนังกินกัน ทางทีมงานเห็นแล้วก็ละเ่ยใจ มีแต่ข้าวต้มซีดๆ กะเนื้อชิ้นเล็กๆ แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียน้ำใจ ทางทีมงานก็เลยกินกัน ปรากฎว่าเป็นข้าวต้มที่อร่อยที่สุดที่เคยกินกันมา หลังจากฉายหนังจบถึงตี 2 ผู้คนก็แยกย้ายกันกลับ แป๊บเดียวก็สลายไปหมด ไม่มีใครเหลืออยู่เลย ทางทีมงานก็เก็บอุปกรณ์ขึ้นรถ โดยมีผู้หญิงสองคนนั่งรถออกมาส่ง ก่อนจะร่ำลาก็จ่ายค่าจ้างที่เหลือซึ่งเป็นเงินเหรียญทั้งหมด พอออกมาส่งถึงปากซอยผู้หญิงสองคนนั้นลงจากรถ พอรถออกตัวคนขับที่เป็นเจ้าของหนังกลางแปลงหันกลับมาดูก็ไม่เห็นผู้หญิง 2 คนนั้นแล้ว

หลังจากกลับมาถึงบริษัท ธงชัย ก็เกิดความสงสัย จึงเช็คประวัติกับผู้ว่าจ้างที่ถ่ายเอกสารให้ตอนวางมัดจำ ก็พบตัวว่ามีชื่อนี้จริง แต่เจ้าตัวบอกว่าไม่เคยไปว่าจ้างใครไปฉายหนังตามวันและเวลาที่บอก เมื่อสงสัยจัดก็เลยสอบถามไปยังเจ้าอาวาสวัดที่เอาหนังไปฉาย ทางเจ้าอาวาสก็บอกว่าในวันนั้นที่วัดไม่ได้มีการจัดงานแต่อย่างใด แต่เจ้าอาวาสเล่าว่า ในคืนวันที่เจ้าของหนังมาบอกว่ามีการฉายหนัง ที่ป่าคำชะโนดจะมีเสียงซู่ๆ เหมือนกับมีพายุพัดเข้ามา ทั้งๆ ที่คืนนั้นไม่มีลมใหญ่พัดมาจากไหนเลย... (?!?)

นอกจากจะมีเรื่องเล่าผีจ้างหนังที่ป่าคำชะโนดแล้ว ผืนป่าแห่งนี้ยังมีเรื่องน่าประหลาดอีกเรื่องคือ เวลาน้ำแล้งก็จะเห็นว่าดินเชื่อมต่อกันไม่มีอะไร แต่เวลาน้ำท่วม ที่ดินรอบๆ จะท่วมหมด แต่ปรากฏว่าป่านี้น้ำไม่ท่วม น้ำขึ้นสูงอย่างไรก็ไม่ท่วม ชาวบ้านจึงเชื่อว่า เกาะนี้ลอยน้ำได้ และเชื่อว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะเจ้าที่เป็นคนทำไม่ให้ผืนป่าแห่งนี้จมน้ำ. . .

ขณะที่ ทองอินทร์ ปักเสติ ชาวบ้านโนนเมือง ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้ๆ กับป่าคำชะโนด ได้ย้อนถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในป่าคำชะโนดอีกหนึ่งเรื่องเล่าของป่า แห่งนี้ ซึ่งคนภายนอกฟังดูอาจคิดว่าเป็นเรื่องอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อหลอกให้คนกลัวกัน เล่นๆ สำหรับชาวบ้านที่อยู่มานานนมกลับเชื่อสนิทใจ ไม่ใช่นิทานปรัมปรา หรือนิยายประโลมโลก แต่นั่นคือแรงศรัทธาที่ชาวบ้านมีต่อป่าอันลี้ลับและเต็มไปด้วยเรื่องเล่ามาก มาย …

เดิมทีคนท้องถิ่นจะเรียกที่นี่ว่า "วังนาคินทร์คำชะโนด" ที่มาก็คือมีบ่อน้ำอยู่กลางดงชะโนด เป็นบ่อน้ำขนาดเล็กๆ แต่กลับมีน้ำซึมออกมาตามธรรมชาติตลอดเวลา ทำให้ชาวบ้านเชื่อกันว่าบ่อน้ำประทานมาให้โดยพญานาคที่อาศัยอยู่ในบริเวณผืน ป่า สำหรับบ่อน้ำในป่าคำชะโนด ว่ากันว่าเป็นบ่อน้ำที่ความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก ชาวบ้านเชื่อกันอย่างนั้น มีหลายคนเคยลองอธิษฐานตรงหน้าบ่อน้ำก็ได้ตามประสงค์ บางคนเจ็บป่วยไปดื่มหรืออาบโรคร้ายก็หายเป็นปลิดทิ้ง สร้างความอัศจรรย์ใจยิ่งนัก แต่นั่นไม่ใช่ทุกคน อยู่ที่ความเชื่อมีมากน้อยแค่ไหน หลายคนไม่เชื่อแถมยังลบหลู่ ตักน้ำจากบ่อแล้วนำมาล้างเท้าแทนที่จะหายป่วยไข้กลับทุกข์ทรมานซ้ำหนักกว่า เดิมเช่นเดียวกับใครที่อยากจะเข้าไปสัมผัสป่าลี้ลับคำชะโนดก็ต้องสำรวมและ ปฏิบัติตามข้อห้ามอื่นๆ เป็นต้นว่า ห้ามใส่รองเท้าทั่วทั้งบริเวณป่า หมวก แว่นตา ร่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ห้ามเด็ดขาด เพราะสิ่งเหล่านี้คือการดูถูกดูหมิ่นต่อผู้ปกปักรักษาผืนดิน

"แต่ก่อนห้ามใส่เสื้อสีแดงด้วย ไม่ได้เลยนะ ใครใส่เข้ามานี่เป็นเรื่อง อยู่ไม่ได้นานหรอก ต้องรีบออกไป ไม่รู้เพราะอะไร เหมือนท่านไม่ชอบ แต่พอหลวงปู่ (หลวงตาคำ สิริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดศรีสุทโธ วัดละแวกป่าคำชะโนด) ได้ทำพิธีขอยกเว้นตอนหลังก็ใส่ได้" ทองหล่อ ตลิ่งชัน กำนันตำบลวังทอง กล่าว

ความเชื่อเรื่องพญานาคของคนที่นี่นั้นอาจไม่แตกต่างจากชาวหนองคายที่ เชื่อว่าพญานาคมีจริง บั้งไฟพญานาคเกิดจากอิทธิฤทธิ์ของเจ้าแห่งเมืองบาดาล ไม่ใช่ฝีมือของมนุษย์ธรรมดาเหมือนเมื่อครั้งถูกนำเสนอผ่านหนัง รวมถึงสื่อทีวีบางช่องเมื่อหลายปีก่อนโน้น ชาวบ้านละแวกป่าคำชะโนดก็คล้ายกัน พวกเขาสร้างทางเดินที่เชื่อมจากโลกภายนอกกับผืนป่าอันศักดิ์สิทธิ์เข้าไว้ ด้วยรูปปั้นพญานาค 2 ตัว 7 เศียร นอนเลื้อยยาวไปจนสุดทางเดินราว 300 เมตร เพื่อสะท้อนถึงพลังอำนาจและบารมีของพญานาคราช

กระทั่งในวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ชาวบ้านก็มีความเชื่อว่าเป็นวันที่พญานาคจะขึ้นมาหายใจ ดวงไฟสีแดงที่ผุดกลางบ่อน้ำแล้วลอยขึ้นท้องฟ้า (คล้ายๆ กับบั้งไฟพญานาคผุดกลางลำน้ำโขงที่ จ.หนองคาย) นั่นละคือ ลมหายใจพญานาค โดยชาวบ้านเชื่อว่าใครเห็นจะเป็นบุญของชีวิตเลยทีเดียว

ป่าคำชะโนด... ยังมีเรื่องเล่าอีกนับไม่ถ้วน ทั้งที่สร้างความรู้สึกชวนขนหัวลุก และตื่นเต้นเสียวสันหลัง เชื่อหรือไม่เชื่อนั้นแล้วแต่วิจารณญาณส่วนบุคคล หรือคุณจะลองไปพิสูจน์...?

+.+cedit l3nzTom

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
!!ห้องชมพู!!

ห้องสีชมพูตำนานอันลือลั่นของเด็กใหม่ปี 1 ทุกคน

โดยเฉพาะนศ.หญิงที่จะต้องพักที่หอ 8

โดยรุ่นพี่ที่เคยอยู่หอนี่จะบอกและย้ำเสมอว่า

เวลาจะเข้าห้องน้ำต้องเอาเพื่อนไปด้วยเสมอ ห้ามลืมเด็ดขาด!!

นี่คือคำเตือนของรุ่นพี่ประจำหอ ที่เพื่อนผมได้ฟังตอนปีหนึ่ง

แล้วรุ่นพี่อีกคนก็เล่าให้ฟังเกี่ยวกับประวัติของห้องสีชมพูนี้

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ปี2532 ของนักศึกษาหญิงคนหนึ่ง

ซึ่งประเพณีหรือเรียกว่ากฏของ มช.คือเด็กปีหนึ่งทุกคนต้องอยู่หอใน

เพื่อที่เวลาพี่เรียกมาทำกิจกรรมรับน้องจะได้พร้อมกันอย่างรวดเร็ว

ส่วนคนที่อยู่เชียงใหม่ส่วนมากจะกลับบ้านเย็นวันศุกร์(ถ้าวันเสาร์รุ่นพี่ ไม่นัด)กลับเข้าหอก่อนเย็นวันอาทิตย์

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อรุ่นพี่ต่างคณะเกิดมาชอบนศ.หญิงน้องใหม่คนหนึ่ง

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่นับวันยิ่งดูรักกันมากขึ้นทุกวันจนมาถึงกลางเทอม

รุ่นพี่คนนี้เลยชวนนศ.หญิงไปอยู่ด้วยกันที่หอหลังมช.

ทุกเย็นวันศุกร์หน้าหอ 8 จะมีรุ่นพี่คนนี้มาจอดรถรอนศ.หญิงคนนี้ทุกครั้ง และจะมาส่งตอนเย็นวันอาทิตย์ทุกครั้ง

เป็นไปอย่างนี้เกือบจะ 5 เดือนจนเป็นที่อิจฉาของเหล่านศ.หญิงที่หอนั้น

ใครเห็นก็ต่างพูดแซวอยู่ตลอดเวลา ทำให้นศ.หญิงรู้สึกดีใจและรักรุ่นพี่คนนี้มาก

แต่ต่างกันรุ่นพี่คนนี้เริ่มที่จะตีตัวออก***ง เพราะรู้สึกว่านศ.หญิงคนนี้ เริ่มที่จะจริงจังกับตนเองมากเกินไป

แล้ววันที่นศ.สาวคนนี้เสียใจที่สุดและได้สร้างตำนานอันลือลั่นก็มาถึง

เย็นวันศุกร์ที่รุ่นพี่จะต้องมารับเป็นประจำทุกครั้ง..แต่วันนี้รุ่นพี่มา ถึงก็ดึกมากแล้ว

นศ.หญิงเลยถามว่าทำไมมาดึกซึ่งหลายคนก็บอกว่าเพราะรุ่นพี่คนนั้นไปติดพัน หญิงอีกคนอยู่

นศ.หญิงคนนี้ได้ยินแล้วก็เก็บไว้ในใจตลอดไม่กล้าที่จะถามเพราะกลัวเสียคนรัก ไป

และเธอก็บอกกับรุ่นพี่คนนี้ว่ามีเรื่องที่จะพูดด้วย เป็นเรื่องสำคัญมาก

รุ่นพี่คนนี้ก็บอกให้ไปคุยกันที่หอ หญิงสาวคนนี้ก็เลยซ้อนรถไปแล้วก็คุยขณะที่ซ้อนรถอยู่

บอกว่าตนเองตอนนี้ตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนแล้วพอได้ยินแค่นั้นรุ่นพี่คนนี้ก็จอดรถทันที

แล้วก็ถามย้ำว่าเมื่อกี้พูดว่าอะไร หญิงสาวเลยย้ำไปว่าตังครรภ์ได้ 3 เดือนแล้ว

รุ่นพี่คนนี้ไม่รับผิดชอบหาว่า หญิงสาวนอกใจไปคบชายอื่น พอท้องแล้วจึงมาอ้างว่าตนเป็นคนทำ

รุ่นพี่คนนี้ขอบอกเลิกเธอในทันที และปล่อยให้เธอเดินจากหลัง มช.กลับมาที่หอตามลำพัง

ระหว่างทางหญิงสาวก็คิดเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งความรู้สึกเสียใจปนความเคียดแค้นต่อชายหนุ่มที่ทิ้งเธอไป

บวกกับกลัวทางบ้านจะรู้ความจริงและทำให้พ่อแม่ผิดหวัง ทำให้เธอตัดสินใจเอาเด็กออก

แต่เธอไม่กล้าพอที่จะไปที่โรงพยาบาลหรือบอกให้ใครทราบ

พอมาถึงห้อง เมทร่วมห้องไม่อยู่เพราะกลับบ้านกันหมด

เธอเลยเอาเด็กออกด้วยตัวเอง โดยการเอาไม้บรรทัดเหล็กกระทุ้งจนมดลูกฉีก

เธอทำไปโดยไม่รู้วิธีการที่ถูกต้อง ทำให้เธอเกิดอาการตกเลือดอย่างรุนแรง

ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตเธอได้เขียนข้อความไว้บนกำแพงห้องนั้นว่า


"กูมีมึงคนเดียว" --z--

วันรุ่งขึ้นเมทร่วมห้องก็เข้ามาที่หอด้วยท่าทีวิตกกังวล และได้ไปที่ห้องพักที่เธอได้พักกับหญิงสาวคนนี้

ก็ได้พบกับศพของหญิงสาว รอยเลือดกระจัดกระจายและข้อความบนกำแพงจึงแจ้งให้ป้าผู้คุมหอทราบ

ก็ได้มีการสอบสวนเมทคนนี้ ว่ารู้ได้อย่างไรว่าเพื่อนเสียชีวิต

เมทคนนี้ก็บอกว่าเมื่อคืนฝันเห้นเพื่อนมาบอกลา และให้ไปเอาศพที่ห้องลงมาด้วย

แถมยังฝากบอกป้าคุมหออีกว่า ห้ามใครก็ตามมายุ่งกับห้องของเธอ

หลังจากจัดการเรื่องศพและงานศพเรียบร้อยแล้วนั้น ก็ได้มีการทำความสะอาดห้องนั้นโดยใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดรอยเลือดให้สีจางลง

เปลี่ยนที่นอนและผ้าปูที่นอนใหม่จนห้องเกือบจะสะอาดเหมือนเดิม

แต่รุ่งขึ้นสิ่งที่ทำให้ทุกคนขนลุกก็คือ ทั้งรอยเลือดและข้อความที่หญิงสาวคนนั้นทิ้งไว้ไม่ได้หายไป

แต่รอยเลือดกลับเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ทางหอเลยพิจารณาเอาสีใหม่มาทาทับไม่ให้เห็นรอยเลือด

แต่แล้วพอวันรุ่งขึ้นรอยต่างๆก็กลับมาอยู่ดังเดิมเหมือนกับไม่ได้มีการนำ สีมาทาแต่อย่างใด

ทางหอเลยได้เชิญพระที่วัดฝายหินมาทำพิธี แต่พระท่านบอกว่าทำพิธีไล่ไปคงไม่ได้เพราะวิญญาณนี้เฮี้ยนมาก

เพราะยังมีความอาฆาตและมีลูกในท้องอีกด้วย เลยได้แต่ทำการสะกดวิญญาณไม่ให้ไปหลอกคนในหอ

หลังจากทำพิธีสะกดวิญญาณเรียบร้อยแล้ว ทางหอก็ได้ทาสีห้องใหม่แต่คราวนี้ใช้สีชมพู

เพราะจะได้มองไม่เห็นคราบเลือดบนกำแพง จนกลายมาเป็นตำนานห้องสีชมพูจนถึงเดี๋ยวนี้

ปัจจุบันนี้ผมไม่ทราบนะว่าห้องนั้นใช้ทำอะไร แต่ตอนที่เพื่อนผมอยู่ที่หอ 8 นั้น

เพื่อนบอกว่าห้องนั้นใช้เป็นห้องเก็บของที่ไม่ใช่แล้ว เพราะไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปได้แต่โยนๆของเข้าไปเท่านั้น

เพราะเคยมีแม่บ้านเข้าไปแล้วออกมาไม่ได้เพราะประตูถูกล็อค ทั้งๆที่ลูกบิดและที่ล็อคห้องนั้นมันล็อคจากด้านใน

ส่วนเหตุการณ์ที่เพื่อนผมเจอนะ อยากรู้ไหมถ้ากล้าพอจะอ่านก็อ่านเลย

ห้องสีชมพูนี้จะอยู่ที่ชั้น 2 ของถ้ามองจากด้านหน้าหอ 8 จะอยู่ฝั่งซ้ายไม่แน่ใจว่าเป็นห้องเลขอะไร

ตอนนั้นทั้งแถบนั้นไม่มีนักศึกษาอยู่ใกล้ห้องนั้นแม้แต่คนเดียว เพราะกลัวเกี่ยวกับประวัติห้องสีชมพูนั้นมาก

แต่เพื่อนผมเล่าให้ฟังว่ามีนศ.หญิงท่าทางออกผู้ชายคนหนึ่งดูเหมือนจะไม่ เชื่อกับเรื่องที่เล่าเท่าไหร่

เลยบอกว่างั้นถ้าไม่มีใครอยู่จริงๆ ขออยู่ใกล้ๆห้องนั้นแหละ เพราะเงียบดีจะได้ไม่มีใครรบกวน

ป้าผู้คุมหอตอนนั้นก็เลยถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

เพราะลงชื่อห้องไปแล้วจะเปลี่ยนไม่ได้ เพราะห้องจะไม่ว่างพอที่จะรับแน่ๆ

นศ.คนนั้นก็ยังยืนยันคำเดิมว่าจะอยู่ที่แถบนั้นแหละ ห้องไหนก็ได้

ป้าเขาเลยให้ตรงชั้น 2 ห้องของนศ.หญิงคนนี้อยู่ถัดจากห้องสีชมพูไปอีก 2 ห้อง อยู่ใกล้ๆห้องน้ำ

(หอหญิง 8 ห้องน้ำจะเป็นห้องน้ำรวมจะอยู่สุดทางฝั่งขวาถ้านับจากด้านหน้าตึกก็จะอยู่ ลึกสุดของแต่ละชั้น)
นศ.คนนี้ก็ไม่มีทีท่าว่าจะกลัวอะไร

ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ตอนที่รับน้องอยู่เพื่อนผมก็ถามว่าเจออะไรแปลกๆบ้างไหม

นศ.คนนี้ก็ตอบว่าไม่เจอนี่ เรื่องที่รุ่นพี่เล่าให้ฟังนะอย่าไปเชื่อมากเลยแต่งขึ้นมาให้รุ่นน้องกลัว ทั้งนั้นแหละ

และหลังจากรับน้องเสร็จคืนนั้นเอง หอ 8 หญิงก็ต้องตื่นกันทั้งหอตอนตี 2

เพราะได้ยินเสียงกรี๊ดของนศ.คนนี้ดังลั่น ป้าผู้คุมหอ รปภ.หน้าประตูหอและนศ.ทั้งหมดต่างออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น

เพื่อนผมก็เดินขึ้นไปดูตามป้าเจ้าของหอและรปภ.จะเปิดประตูแต่ประตูห้องล็อค

ป้าผู้คุมหอก็เลยบอกว่าเปิดประตูห้องสิ มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ เป็นอะไรรึเปล่า

นศ.คนนี้ก็ตะโกนออกมาบอกว่าประตูไม่ได้ล็อค แต่มีผู้หญิงคนนี้ดึงประตูไว้อยู่

พูดแค่นั้นทั้งป้า ผู้คุมหอ รปภ.และเพื่อนผมพร้อมกับนศ.หญิงอีกหลายคนรีบวิ่งแทบจะไม่ทัน

แต่พอวิ่งกำลังจะลงมา ประตูห้องก็เปิดออกเอง นศ.หญิงคนนั้นสลบคาห้องต้องเอามาปฐมพยาบาลข้างล่าง

โดยเพื่อนผมบอกว่ากว่าจะเข้าไปเอาตัวออกมา ป้าผู้คุมหอต้องไปเอาองค์พระพุทธรูปที่หิ้งพระขึ้นมาเลยทีเดียว

ส่วนรปภ.ก็ต้องเอาสร้อยพระออกมาถือชูไว้ด้านหน้า

แล้วค่อยๆอุ้มนศ.คนนั้นออกมาโดยให้นศ.ช่วยกันดันไม่ให้ประตูปิด

พอปฐมพยาบาลเสร็จแล้วนศ.คนนั้นฟื้นขึ้นมาก็เอาแต่ร้องไห้บอกว่าจะลาออกไป เรียนที่อื่น

จนตอนเช้าพ่อแม่ก็บินมาจากกรุงเทพมาหาที่หอพัก แล้วให้นศ.คนนี้มาเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น

เพราะพ่อแม่นศ.คนนี้ไม่เชื่อว่าลูกถูกผีหลอกน่าจะโดนเพื่อนแกล้งมากกว่า

นศ.คนนี้เลยเล่าให้ฟังว่าตอนที่อ่านหนังสืออยู่ ก็ได้ยินเสียงคนหายใจใกล้ๆหู

จากนั้นก็ได้ยินเสียงขาเตียงเลื่อนเหมือนมีคนนั่ง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะคิดว่าอาจจะเป็นเสียงจากด้านล่าง

ซักพักก็ได้ยินเสียงเหมือนคนหายใจไม่ออก แล้วก็ไอเบาๆ

ก็เริ่มที่จะกลัวขึ้นมานิดๆปนกับความสงสัยและอยากรู้

เลยพูดออกไปว่า "อยู่ห้องใกล้ๆกันออกมาให้เห็นเลยดีกว่าไหม"

แค่นั้น ก็ได้ยินเสียงเล็บขูดกับกำแพงรอบๆห้อง รอบแล้วรอบเล่าจนทนไม่ไหวจะวิ่งออกจากห้อง

แต่พอหันไปทางประตูแค่นั้น ก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งใส่ชุดนอนสีเหลืองครีมมีเลือดออกมาทาง หู ตา จมูก ปาก และช่องคลอด

ยืนจ้องหน้าพร้อมกับพูดว่า "อยากเจอไม่ใช่เหรอ มาหาแล้วนี่ไง"

ตนเองจึงร้องออกไปอย่างสุดเสียงก็เห็นหญิงสาวคนนั้นหัวเราะและมองมาทางตนเอง

แล้วก็ได้ยินเสียงป้าคุมหอบอกให้เปิดประตูแต่ตนไม่ได้ล็อค

พอบอกไปว่ามีหญิงสาวคนนี้ยืนจับประตูอยู่แค่นั้น หญิงสาวคนนี้ก็หัวเราะแล้วเดินทะลุกำแพงห้องข้างๆไปเลย

จากนั้นประตูก็เปิดออกเองแล้วตนเองก็สลบไป

พ่อแม่นศ.คนนี้ได้ฟังยังไม่อยากเชื่อเลยขอดูห้องสีชมพู แต่เพียงแค่อยู่ด้านล่างแล้วมองขึ้นไป

ยังไม่ทันได้ไปถึงห้อง ก็เห็นนศ.เจ้าของห้องสีชมพู ยืนที่หน้าต่างให้เห็นด้วยใบหน้าโชกเลือด

ทั้งพ่อแม่และนศ.คนนั้นเลยรีบออกจากหอพักนั้นทันที และได้ย้ายไปเรียนที่กรุงเทพ

ส่วนชั้นนั้นก็ไม่มีใครกล้าไปอยู่ใกล้ๆห้องนั้นเลยตลอด 4 ปีที่เพื่อนผมเรียนอยู่

และ เพราะบ้านเพื่อนผมอยู่ต่างจังหวัด เลยพักแต่หอในแล้วเพื่อนบอกว่าวันดีคืนดีก็ได้ยินเสียงร้องไห้บ้าง เสียงกรีดร้องบ้าง หรือบางทีไฟห้องนั้นก็เปิดเองทั้งๆที่ไม่มีหลอดไฟ

แต่ที่เพื่อนผมเจอหนักที่สุดคือตอนไปห้องน้ำ เพื่อนผมไปคนเดียว

เพราะปลุกใครก็ไม่ยอมไปเป็นเพื่อน เลยรีบวิ่งไปเข้าแล้วก็รีบวิ่งกลับ(ห้องเพื่อนผมอยู่คนล่ะฟากกับห้องน้ำเลย)

แต่ขากลับระหว่างที่วิ่งผ่านทางเดินเชื่อมฝั่งซ้าย-ขวา ก็เห็นเงาคนค่อยๆเดินจากอีกฟากมา(เพื่อนผมอยู่ฟากขวา ห้องชมพูฟากซ้าย)

เพื่อนผมเลยวิ่งเข้าห้องอย่างรวดเร็วพร้อมกับแหกปากกะให้ทุกคนตื่น

แต่แปลกที่ไม่มีใครได้ยินสียงเพื่อนผมเลย พอเพื่อนผมวิ่งเข้าห้องได้

ก็รีบเอาหนังสือพระมาวางไว้หลังประตูแล้วนอนคลุมโปงเลย

มันบอกได้ยินเสียงเล็บขูดกับกำแพงรอบห้องเหมือนกับที่นศ.คนนั้นบอก

มันเลยท่องบทสวดอุทิศส่วนกุศลให้กว่าเสียงจะเงียบก็เกือบครึ่งชั่วโมง

แต่ที่แปลกคือเมื่อเสียงเงียบไปแล้ว เพื่อนทุกคนในห้องตื่นพร้อมกันหมด

และพูดขึ้นพร้อมกันว่าเหมือนมีใครไม่รู้เดินตามเข้ามาในห้องด้วย

เพราะเห็นแต่เหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น

คืนนั้นเลยไม่ได้นอนกันทั้งห้อง เปิดไฟ เปิดวิทยุกันจนถึงเช้าเลย

วันรุ่งขึ้นไปหาซื้อโปสเตอร์รูปพระและผ้ายันต์ที่วัดอุโมงค์มาแแปะไว้เต็ม ห้อง

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
ต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่านะฮะพอดีไปเจอมา


"อุษา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวิญญาณพเนจร

ไม่ ว่าใครๆ ก็ชอบฟังเรื่องผีทั้งนั้นแหละค่ะ แต่น่าสังเกตอยู่อย่าง ว่าเรื่องผีมักจะเกิดในวัดหรือโรงพยาบาล ไม่งั้นก็เป็นทางเปลี่ยว หรือไปนอนค้างที่อื่น เป็นต้นว่าบ้านหรือโรงแรม แต่ไม่เคยได้ยินว่ามีใครโดนผีหลอกในบ้านตัวเอง

ดิฉันอาจจะเคราะห์ ร้ายสุดๆ ก็เป็นได้ เพราะจะโดนผีหลอกที่ ไหนไม่โดน แต่กลับมาโดนในห้องนอนที่เคยอยู่มาเกือบสิบปี ทำให้นึกสงสัยว่ามีอะไรเกิดขึ้นแน่ในคืนนั้น

ถึงแม้ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นนานมาแล้ว แต่ก็ยังฝังแน่นอยู่ในความทรงจำไม่มีวันลืมเลือน!

พ่อ แม่ดิฉันปลูกบ้านอยู่ในซอยนางลิ้นจี่ แถวช่องนนทรี มีบ้านเรือนคับคั่ง ยิ่งมีทางด่วนตัดผ่านก็ยิ่งเจริญขึ้นผิดหูผิดตา ถนนหน้าซอยมีทั้งธนาคาร ร้านอาหารดังๆ มาเปิดสาขาเรียงรายอยู่คึกคัก รถราที่แล่นเข้าออกในซอยก็แทบจะไม่ขาดสายทั้งกลางวันและกลางคืน

บ้านดิฉันยังไม่เคยมีใครล้มตายแม้แต่คนเดียว!

เมื่อดิฉันแต่งงานและมีลูกชายเล็กๆ อายุได้สองขวบก็เกิดเรื่องน่าขนหัวลุกขึ้นมา

คืน เกิดเหตุ สามีไปทำธุระทางภาคเหนือมีกำหนดสามคืน ดิฉันนอนกับลูกในห้องด้านหน้า มีห้องน้ำคั่นระหว่างห้องนอนของพ่อแม่ที่อยู่ด้านข้าง ประตูห้องน้ำอยู่ตรงกับหัวบันไดพอดี

คืนนั้น เราดูละครทีวีเรื่องเงา เกี่ยวกับพญามัจจุราชที่แปลงตัวมาเป็นมนุษย์เพื่อลงโทษคนบาป...เราดูกันทั้ง บ้านเลยค่ะ เมื่อละครจบก็ขึ้นนอน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของป้าแจ่ม แม่บ้านเก่าแก่เป็นคนดูแลเรื่องประตูหน้าต่างและฟืนไฟ...ทุกสิ่งทุกอย่างดู เป็นปกติเหมือนกับทุกๆ คืนที่ผ่านมา

ดิฉันดับไฟพาลูกเข้านอนไล่ๆ กับพ่อแม่ จนกระทั่งเคลิ้มหลับไป...

มา รู้สึกตัวตื่นขึ้นอีกครั้งกลางดึก สรรพสิ่งเงียบสงัด เสียงรถยนต์แล่นผ่านหน้าบ้านไปมานานๆ ครั้ง...ดิฉันอดสงสัยไม่ได้ว่าเราตื่นขึ้นมาทำไม?

เสียงแอร์แบบ วินโดว์ครางเบาๆ แสงไฟจากภายนอกถูกม่านหน้าต่างปิดกั้นจนในห้องมืดสลัว เหลือบมองลูกชายก็เห็นหลับสนิท ดิฉันขยับผ้าห่มให้คลุมทรวงอกอย่างมิดชิด...ขณะนั้นเองที่แว่วเสียงแปลก ประหลาดดังมาจากหน้าประตู!

ความรู้สึกงัวเงียในตอนแรกเปลี่ยนเป็นตื่นตัวอย่างเต็มที่...

เสียงคนกำลังซักผ้าค่ะ!!

เสียงน้ำกระฉอก เสียงขยี้ผ้า ตามด้วยเสียงบ่นพึมพำ... คล้ายๆ กับป้าแจ่มยกกะละมังมาซักผ้าอยู่ที่หน้าห้องนอน ตรงหัวบันไดพอดี!

ดิฉัน ลุกพรวดขึ้นนั่ง เกือบจะหลุดปากออกไปแล้วว่าป้าแจ่มซักผ้าทำไมตอนดึกดื่นขนาดนี้ แถมอุตริขึ้นมาซักชั้นบนอีกต่างหาก ...แต่ก็ยกมืออุดปากตัวเองไว้ได้ทัน เมื่อสมองแล่นวาบว่า...นั่นไม่ใช่ป้าแจ่มแน่นอน

เกิดอะไรขึ้น? ใครมาซักผ้าอยู่หน้าห้องนอน?

หัวใจ คล้ายจะหยุดเต้นไปชั่วขณะ หน้าร้อนผ่าวก่อนจะเย็นวูบ เลือดลดตัวจนเย็นเฉียบไปทั้งร่าง รู้สึกเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวสลับกันไม่หยุดหย่อน อากาศในห้องยิ่งเย็นยะเยือกจนขนลุกซ่า...อยากจะร้องไห้โฮออกมาดังๆ เท่าๆ กับอยากตะโกนออกไปเหลือเกินว่า ...ใคร? ต้องการอะไร?

ฉับพลันนั้นเอง เสียงน่าสยองในกลางดึกก็เงียบหายไปกะทันหัน!

เกือบ จะถอนใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก เมื่อนึกว่าเราคงหูแว่วไปเอง ประสาทหลอนเพราะเพิ่งตื่นขึ้นมาหยกๆ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยง เกือบจะกรีดร้องออกมาบัดดล เมื่อเสียงสยองดังขึ้น...ชัดเจนไม่มีอะไรน่าสงสัยแม้แต่นิดเดียว

เสียงคล้ายใครยกกะละมังสาดน้ำโครมลงไปที่บันได!

ดิฉัน ยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดปาก กรีดร้องอยู่ในอกด้วยความหวาดกลัวสุดขีด รู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็น สมองพองโตราวกับจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ น้ำตาไหลพราก ทรุดลงกอดลูกน้อยที่ยังหลับสนิทด้วยท่อนแขนสั่นเทา...ไปเถอะ! ไปเสียที...ไม่ว่าจะเป็นใครหรืออะไรที่อยู่หน้าห้องนอนก็จงเป็นสุขๆ เถิด อย่ามารบกวนเราอีกเลย...

คล้ายจะมีเสียงใครทอดถอนยืดยาวดังแว่วมา แล้วสรรพสิ่งก็ตกอยู่ในความเงียบสงัดตามเดิม ดิฉันนอนกอดลูกใจเต้นกระหน่ำ น้ำตาไหลรินแทบไม่ขาดสาย...จนกระทั่งรุ่งเช้ารีบเปิดประตูออกไปก็ไม่เห็นมี สิ่งใดผิดปกติแม้แต่น้อยนิด

พ่อแม่ไม่ได้ยินเสียงอุบาทว์นั่นเลย หน้าห้องและบันไดทุกขั้นก็แห้งผาก...แม้ว่าเหตุการณ์น่าขนหัวลุกจะเกิดขึ้น เพียงครั้งเดียว แต่ดิฉันก็เชื่อสนิทค่ะว่าผีมีจริง!

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
คืนนี้ นอนไม่หลับแน่คับ ไม่กล้าตื่นมาตอนระหว่าง ค่ำคืน T^T ขอบคุนคับ ,, :sleep: :pale: :affraid:

ป.ล. พอตื่นเช้ามาหน้าผมคงเอ๋อๆอยู่สัก 3 วัน = ="

แก้ไขล่าสุดโดย LeMoNaTe เมื่อ Fri Oct 15, 2010 1:33 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
คราวนี้ แนวมหาลัยฮะ

มหาวิทยาลัยเเห่งหนึ่ง เค้าว่ากันว่าเจ้าที่เจ้าทางเเรงมาก ก็มีนักศึกษาผูชาย4คนมั้งนะถ้าจำไม่ผิด ยกตัวอย่างชื่อหน่อย มีเเบงค์ บอย บาส บอล ละกัน พากันดื่มเหล้าเเละบาสก็ได้คิดอยากลองของ จึงชวนกันไปที่หลังมหาวิทยาลัย เเละพากันตะโกนลบหลู่ต่าง ๆ นานา เเต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เค้าจึงเอาดินมาป้ายที่ตาเพื่อที่อยากจะเห็นเเต่ก็ไม่มีอะไรอยู๋ดี พวกเค้าจึงเเยกย้ายกันกลับบ้าน คนที่ชื่อบอยก็ไปนอนกับเเฟน เเต่เเล้วคืนนั้นตอนที่เค้านอนเค้าก็เห็นผู้ชายร่างใหญ่มานั่งทับตัวเค้า เเล้วก็เอามือบีบคอ อยู่นานบอยจึงท่องคาถาที่เเฟนเคยท่องให้ฟังก่อนนอนประจำ บอยพยายามท่อง ท่องผิดท่องถูกบ้าง เสร็จเเล้วชายร่างใหญ่ก็บอกว่า คราวนี้มึงหนีกูไปได้เเต่คราวหลังกูไม่ปล่อยมึงไว้เเน่
รุ่งเช้า เพื่อน อีก 3 คนที่ไปกินเหล้าด้วยกันก็โทรมาบอกว่า บาสไม่ได้กลับบ้าน ทั้ง 3 คนจึงขับรถไปดูตรงที่ ๆ เค้ากินเหล้ากัน เเต่ระหว่างทางก็เจอคนมุดูอะไรกันอยู่ จึงเข้าไปดู ก็พอว่าเป็นบาส ตายในสภาพขับรถชนกับบ่อหรืออะไรซักอย่างนี่ล่ะ คอหัก เต่บอยคิดว่าไม่ได้ตายธรรมดา ๆ จึงเล่าเรื่องเมื่อคืนให้ฟัง จากนั้นเพื่อน ๆ จึงขนลุกซู่ จึงชวนกันไปวัด พระรูปหนึ่งเดินมาเเล้วก็เอ่ยว่า ? พากันมาเต็มเลยนะ พวกเค้าจึงยืนงงกัน พระรูปนั้นจึงบอกว่ามีชายร่างใหญ่ 6 - 7 คน มาคอยอยู่หน้าวัด พวกเจ้าไปทำอะไรมากัน พวกเด็กนักศึกษาจึงเล่าเรื่องให้ฟัง พระรูปนั้นจึงบอกว่าให้ไปขอขมา จากนั้นนักศึกษาจึงขอให้พระรูปนั้นช่วยพาไปทำพิธีที่ที่พวกเค้ากินเหล้ากัน จากนั้นพอจะจุดธูปกันลมก็พัดมาจุดกี่ครั้งก็ไม่ติด พระรูปนั้นจึงบอกว่า เค้าโกรธมาก เด็กกลุ่มนั้นจึงกลัวกันมาก เเละลองให้พระท่านช่วยสวด เเต่ก็ไม่เกิดผลอะไร เสร็จเเล้วเค้าก็เห็นคนร่างใหญ่เดินมากันเต็มไปหมดประมาณ20 - 50 คนเดินมาที่สายสิญจน์เเละมุงจ้องพวกเค้าล้อมเป็นวงกลมเเล้วค่อย ๆ ก้มหน้าลงไปเรื่อย ๆ (ตรงนี้นึงเเล้วหน้ากลัวมาก) จนนักศึกษาคนนึงทนไม่ไหววิ่งออกไป เสร็จเเล้วพระรูปนั้นเเละนักศึกษาจึงเเยกย้ายกัน วันต่อมา เพื่อนคนนึงก็โทรมา(เหลืออยู่2คน)บอกว่าเพื่อนที่วิ่งหนีออกจากสายสิญนจ์ นั้นตายเเล้วโดยขับรถไปชนรถสิบล้อ
พวกเค้า2คนคิดว่าต่อไปคงเหลือเรา2คน เเล้ว ทั้ง2จึงลองไปทำพิธีขอขมาอีกเสร็จเเล้วก็เจอกับเหตุการ์ณเเบบเมื่อวาน เพื่อนอีกคนก็วิ่งออกไปร้องเสียงดังลั่น จนเหลือบอยคนเดียวเค้าจึงตั้งสติพยายามจุดธูปเเต่เเล้วครั้งนี้สำเร็จ เค้าจึงกลับบ้านเเต่เเล้ว บอยก็ได้ข่าวว่าเพื่อนคนสุดท้ายก็ตายไปเเล้ว เหลือเค้าเพียงคนเดียว

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
ขอบคุณคับ สยองขนลก แล้วละคับ = ="" ผมก้มีเรื่องเล่ามาเหมือนกันคับตอนผมอยู่ประมาณประถมต้นๆ พี่ของผมเค้าก้เคยเจอแต่ไม่รู้ว่าจิงหรือป่าว ตอนผม

ไปต่างจังหวัดกับครอบครัว ในเวลา ตี 1 หรือ 2 หรือประมาณนั้น อ่ะคับ

พ่อ บอกว่า ลง ไป หยิบแก้วน้ำ กับ ขวดน้ำให้พ่อ หน่อย พอพี่ลงไป สัก 5 นาที ก้ได้ยินเสียง กรี๊ดดด !! ของพี่ดังออก มา พร้อมวิ่ง มาพร้อมกับแก้วน้ำ กับ

ขวดน้ำ ( ไม่ถึงกับกรี๊ดมั้งคับ ^^" ) แล้วก้เอาแก้วน้ำกับขวดน้ำให้พ่อ แล้วก้ รีบไปที่เตียงพร้อมเอาผ้าห่มคลุมหัวแล้วผมก้จะหันไปถามแต่แล้วผมก้ .........

หลับไปเลย = =" พอตื่นเช้ามาพี่ก้ เล่าให้ฟังคับ ^^ !!

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
= =" น่ากลัวอ่ะพี่เต้ย

อ่านแล้ว สยองโคตรๆ เสียวสันหลังเลย(อันนี้พูดจริง)

แต่ก็ชอบอยู่ดีพวกตำนานหรือเรื่องเล่าสยองๆนี่นะ

มันน่ากลัวดี(แต่ก็เสียวอยู่ดีนั่นละว้อยยย) :face: :affraid:

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz

คุณ ก้ ก้มลงมองใต้หว่างขาตัวเองสิคับ จะได้หายกลัวไงคับบบ ,, หึหึ ,, ,

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
มาต่อกันเลยสำหรับวันนี้อิอิ


ผมขอเล่าที่รุ่นน้องผมเจอ
และผมเองอยู่ในเหตุการณ์มาเล่าให้ฟังนะครับ
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อเทอมที่แล้วครับ เป็นการสอบมิดเทอม
ผม รุ่นน้องผู้ชายคนหนึ่ง รุ่นน้องผู้หญิงอีกคน
ไปอ่านหนังสือกันที่บนชมรม (ตึกอมช.)
รุ่นน้องผู้หญิงเดินออกไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็หยิบแก้วไปด้วย
เพราะจะไปกดน้ำกิน ตอนที่ผมกำลังคุยกะน้องอีกคนอยู่ดีๆ
น้องผู้หญิงก็วิ่งเข้ามาในห้องแล้วลากพวกเราออกไปข้างนอก
ตรงทางเดินเชื่อมตึก ที่พวกเราเรียกว่าสะพานดาว
ช่องระหว่างตึกสองตึก มองไปจะผ่านสวนหลังหอ 2 หญิง
แล้วจะเห็นตึกฟิสิกส์ใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ น้องผมชี้ให้ดู
แต่เราไม่เห็นอะไร น้องเขาจึงเล่าให้ฟังว่าเมื่อกี้นี้
ตอนกำลังก้มลงกดน้ำอยู่ (ตู้น้ำอยู่ระหว่างทางเดิน)
พอเงยหน้ามองไประหว่างช่องตึก ก็เห็นเป็นเงาคน
รูปร่างสูงมากๆๆๆๆ ยืนคร่อมตึกฟิสิกส์อยู่ครับ เห็นหมดเลยว่า
เป็นช่วงขา ลำตัว แขน หัว ซึ่งเรื่องเจอผีนี่ น้องผมคนนี้
ก็เพิ่งไปเจอบนดอยมา ในหมู่บ้านของชาวกะเหรี่ยงหมาดๆ
คืนนั้นพวกเราไม่มีใครนอนหลับ เพราะผมก็เชื่อว่าน่าจะจริง
ธรรมดาแล้วน้องคนนี้ไม่เคยเชื่อเรื่องผี จิตแข็ง กล้าหาญไม่ใช่เล่น
แต่เจอสองครั้งติดแบบนี้ก็เสียขวัญเหมือนกัน
เพราะเขาก็แน่ใจว่าเขาตาไม่ฝาด ผมช่วยอะไรไม่ได้มาก
นอกจากแนะนำว่าให้ไปทำสังฆทานเท่านั้น
นอกจากนี้เสริมอีกเรื่องคือ เด็กหอ 6 หญิง กับหอ 4 ชาย
จะได้ยินเสียงร้องแหลมๆ หวีดๆ ดังมาจากทางหอนาฬิกาบ่อยๆ
ซึ่งเขาว่ากันว่าเป็นเสียงเปรต อันนี้ผมเคยค่อนข้างจะเชื่อว่า
เปรตในมอชอ ไม่ได้มีเพียงตัวเดียว น่าจะมากกว่า 3 ตัวขึ้นไป นะ
(อาจจะเกิน 5 ด้วย) เพราะเจอกันหลายที่
เรื่องต่อไปเป็นเรื่องที่หอ 6 หญิง นศ.สองคนเดินลงมาที่ชั้นล่าง
ในระหว่างที่คนแรกเดินลงมาเนี่ย ก็ยืนรอเพื่อนแล้วมองไปที่ห้องตัวเอง
ที่อยู่ชั้นบน เห็นเงาคนเดินอยู่ที่ระเบียง พอเมทมาถึง ก็เลยถามว่า
เมื่อกี้มีใครอยู่ในห้อง หรือว่าเมื่อกี้เดินที่ระเบียงหรือเปล่า
เขาก็บอกว่าไม่นี่...นั่นเป็นเงาของใคร?
หอ 5 หญิง ไม่กี่เทอมที่ผ่านมา มีนศ.ที่อาบน้ำ
แล้วเจอผู้หญิงผมยาวห้อยหัวลงมาจากห้องข้างๆ
หอชาย ผมจำไม่ได้ว่าหอไหน
ไม่แน่ใจว่าหอ 1 หรือหอ 6 เพื่อนผมเล่าเอง ว่า
ตอนนศ.อาบน้ำอยู่ แล้วทำสบู่ตก ก็มีมือหยิบมายื่นส่งให้
(กำแพงห้องน้ำแต่ละห้อง ส่วนล่าง จะมีช่องให้น้ำไหลผ่าน)
พออาบน้ำเสร็จก็ชะโงกไปดูห้องข้างๆ ก็ไม่มีใคร
ทั้งๆ ที่ตอนนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงประตู แล้วห้องก็ไม่เปียกด้วย (ตามผนัง)
แล้วเป็นมือของใคร?
หอ 3 หญิงเมื่อตอนต้นเทอมที่ผ่านมา
มีเด็กนอนแล้วสะดุ้งตื่นมากลางดึก เจอคนมานั่งอยู่ที่ปลายเตียง
ไม่ใช่เพื่อนตัวเองด้วย เพราะว่าคืนนั้นนอนคนเดียว เมทไม่อยู่ห้อง
หอ 2 หญิง เรื่องเกี่ยวกับห้องน้ำอีกแล้ว
เกิดที่ชั้น 3 ปีกหลัง มีคนไปเข้าห้องน้ำตอนดึกพอเดินออกมา
ก็ต้องตกใจมากเมื่อเห็นรอยเท้าเปียกน้ำเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ
แล้วก็กำลังเดินๆๆๆ ทั้งๆ ที่ไม่เห็นตัวคน พอเดินตามก็พบว่า
มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของตัวเอง !!!
ส่วนอันนี้เห็นเรื่องของตึกเมเจอร์คอมฯ ช่วงนี้เป็นช่วงเตรียมสอบ
จะมีคนไปอ่านหนังสือโต้รุ่งตามใต้หอต่างๆ บ้าง ใต้คณะ ใต้ตึกบ้าง
แต่ที่ตึกเมเจอร์คอมฯ จะแทบไม่มีเลย เขาว่าเป็นเพราะเหตุดังนี้
เรื่องที่ 1
เมื่อ 3-4 ปีก่อนมี นศ. จัดงานสังสรรค์ แล้วแต่งตัวไม่เหมาะสม
มา กระทำการไม่บังควรที่เนินหลังภาคคอมฯ ได้มาเจออะไรดี ๆ ที่หลังภาค
แถว ๆ นั้นแหละ...ถ้าเดินไปหลังภาคก็จะเห็นมีศาลเจ้าอยู่ไปดูเอง..

เรื่องที่ 2
เกิดเหตุในเวลาราวๆเดียวกับเรื่องที่ แล้ว ....แต่คราวนี้เกิดในห้องเมเจอร์....
เรื่องผีห้องเมเจอร์....ลองถามผู้มีประสบการณ์ดีกว่านะ...
เรื่องที่ 3
เป็นเรื่องที่เป็นที่ฉงนสนเท่ห์กันมาตั้งแต่เปิดตึกคอมฯ
ถ้าเดินเข้าทางหน้าภาคด้านขวามือ จะเห็นเสาต้นนึง.....
เสาทุกต้น กำแพงทุกที่ในภาคทาสีขาวทั้งหมด
แต่ทำไม...เสาต้นนี้ต้องทาสีแดงก็ไม่รู้...
พวกที่มาอ่านหนังสือดึกๆ แล้วทำอะไรไม่เหมาะสม ระวังตัวให้ดีเน้อ
เห็นพี่เค้าต้องมาเก็บก้านธูป ดอกไม้ที่มาคนมาไว้ที่หน้าเสาทิ้งบ่อย ๆ
....บรื๋อ...อ...อ
เรื่องที่ 4
กระจกหน้าห้องธุรการ ตอนเดินไปกินน้ำหรือว่าเปิด-ปิดไฟ
ไม่จำเป็น ไม่ต้องมองไปที่กระจกนะ บอกแค่เนี๊ยะ..
เรื่องที่ 5
ตอนดึกๆมีคนเห็น เด็ก นั่งเล่นอยู่บนดาดฟ้า
(ตรงเหนือม้าหินอ่อนนั่นแหละ) น.ศ. กับอาจารย์หลายๆคนก็เห็นมาแล้วนะ..
เรื่องที่ 6
4ทุ่ม 13 นาที 13 วินาที ไฟที่ภาคจะดับเอง..
(ปล.ข้อความนี้คัดลอกมาจากกระทู้ในบอร์ดครับ)
ยังเหลืออีกหลายเรื่องไว้ค่อยมาเล่าต่อครับ
ขอไปทบทวนเรื่องกับเพื่อนก่อน
เราเคยอยู่หอ 3 หญิงนะ ไม่เคยเจอผีกับตัว
แต่เพื่อนเล่าให้ฟังว่าเค้าโดนผีอำ 3 คืนติดกัน
อธิบายก่อนว่าเตียงที่หอ 3 จะมี 2 เตียงต่อ 1 ห้อง
คือเตียง 2 ชั้น 1 เตียงกับเตียงเดี่ยว 1 เตียง
เพื่อนเราเค้านอนชั้น 2 (เตียง 2 ชั้น) ข้างล่างอีกชั้น
มีเพื่อนอีกคนนอนอยู่ แต่เตียงเดี่ยวไม่มีคนนอน
เพื่อนเรานอนอยู่ซักพักแล้วหิวน้ำ เลยตื่นมากินน้ำ
แต่มองเห็นมีคนนอนอยู่ที่เตียงเดี่ยว คิดว่าเป็นเพื่อนอีกคน
เลยไม่ได้คิดอะไร เป็นแบบนี้อยู่ 3 วัน
แต่วันอื่นนี่ไม่ได้ลุกไปกินน้ำนะ แต่ลุกไปห้องน้ำ
วันที่ 4 เค้าเจอเพื่อนคนที่เป็นเจ้าของเตียงเดี่ยวที่โรงอาหารใต้หอ
เลยถามว่าย้ายมานอนที่ห้องแล้วเหรอ
(เพื่อนที่เป็นเจ้าของเตียงเดี่ยวไม่ใช่เพื่อนที่รู้จักกันมาก่อน
แต่บังเอิญได้อยู่ห้องเดียวกันตอนจับ roommate
และเพื่อนคนนี้ไม่เคยนอนที่ห้องตัวเองเลย
ไปนอนห้องเพื่อนเค้าตลอด แต่มีของไว้ในห้องบ้างนะ
กันผู้ปกครองหอมาตรวจแล้วเจอว่าทำไมห้องอยู่แค่ 2 คน)
พอเพื่อนคนนั้นบอกว่าเปล่า ไม่ได้ไปนอนที่ห้องเลย
โอ้ ขนลุกเกรียวเลยแหละ แล้วคนที่เค้าเห็นน่ะใคร
ส่วนคนที่นอนที่เตียงล่างนี่ไม่รู้เรื่องเลย นอนหลับสนิททุกคืน
เพื่อนเราเลยไปไหว้ศาลเจ้าใต้หอ 3 จากนั้นมาก็ไม่เจออีก
หอ 3 นี่ขึ้นชื่อนะว่าเจอผีติดๆกันหลายวัน
ดีที่เราไม่เจอเพราะอยู่หอนั้นแค่ปีเดียว
ตอนแรกที่อยู่หอ 3 จะงงกับทางเดินในหอมากเลยล่ะ
เพราะเป็น 8 เหลี่ยม เหมือนเดินเป็นวงกลม

เล่าเรื่องเดียวละกัน โดยส่วนตัวแล้วตั้งแต่เด็กจนโต
ก็เคยเจอเรื่องผีๆ มาหลายครั้ง ผีอำก็มีทั้งมาอำแบบดี
และแบบร้าย แต่ผีอำมันสามารถอธิบายไ้ด้ตามหลักวิทยาศาสตร์
เลยจะขอเล่าเรื่องผีๆ ที่มาร้ายให้ฟังดีกว่า เรื่องยาวหน่อยนะคะ

เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนเรายังเด็ก ความจริงก็จำรายละเอียดไม่ได้นัก
แต่แม่มาเล่าให้เราฟังอีกที ทำให้เรื่องราวประกอบกันจนจำได้ขึ้นใจ
เรื่องมีอยู่ว่า...

ตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ครอบครัว
จะพาลูกหลานไปเที่ยว ที่เที่ยวอันดับหนึ่งคือ ทะเล
ครอบครัวเราไปทะเลกับครอบครัวลุงที่สนิทกัน
มีทั้งหมด 6 คน คือ เรา พ่อ แม่ น้อง ลุง และอา

เราได้เช่าบังกาโลหลังนึงอยู่ บังกาโลหลังนี้เป็นบังกาโลชั้นเดียว
อยู่***งจากชายหาดพอประมาณอยู่ เพราะเป็นบังกาโลหลังสุดท้าย
ด้านหลังของบังกาโลเป็นต้นไม้ที่ทางรีสอร์ทปลูกไว้อย่างทึบ
เรียกว่าเป็นป่าก็ไม่ผิด

เมื่อเรากับครอบครัวไปถึงบังกาโล ก็จัดกระเป๋า แบ่งห้องนอนกัน
มี 2 ห้องนอน ก็แบ่งกันห้องละครอบครัว เรา พ่อ แม่ นอนด้วยกัน
อีกห้องเป็น ลุง น้า และน้อง (น้องคนนี้เป็นลูกพี่ลูกน้องเรา ลูกของลุงกับน้าผู้หญิง จึงขอเรียกสั้นๆว่า น้อง)
โดยห้องนอนของเราเป็นห้องนอนด้านหลังบ้าน เปิดหน้าต่างไป ก็จะเจอกับป่า
จัดของเสร็จ ตามประสาเด็กๆ พ่อแม่ก็ต้องพาไปเล่นน้ำที่ชายหาด
จนตกดึก...

พ่อกับลุงที่ดื่มเหล้าเข้าไปมากตามประสาผู้ชายก็เริ่มๆเมา แต่พ่อเราเมากว่า
เพราะอยู่ดีๆ พ่อก็เดินลงไปในทะเล ที่ตอนนั้นมืดมาก และเป็นสีดำสนิท
ตอนแรกแม่เราก็คิดว่าพ่อคงไปย่ำน้ำตื้นๆ แต่พ่อก็เดินต่อไปไม่หยุด ครึ่งตัวก็แล้ว
ยังคงเดินต่อ แม่เราก็เป็นห่วง เลยให้ลุงไปลากพ่อขึ้นมาบนฝั่ง
พอพ่อขึ้นมาบนฝั่ง พ่อก็มึนๆ แล้วก็บอกว่า เห็นผู้หญิงใส่ชุดขาว เรียกอยู่ในทะเล
แต่ด้วยความที่พ่อเมามาก เลยไม่มีใครเชื่อ และคิดอะไร รวมทั้งตัวพ่อเองด้วย
และ้ด้วยความปลอดภัย อาผู้หญิงเลยแนะนำให้เปลี่ยนที่กินเหล้า โดยแม่เราซึ่งไม่ดื่มเหล้า
ให้พาเด็กๆ คือเรากับน้องไปนอนที่บังกาโล ส่วนอาผู้หญิง ลุง และพ่อ จะไปต่อที่บาร์

หลังจากแยกย้าย แม่ เรา และน้อง ก็มานอนพักที่ห้อง โดยนอนที่ห้องเรา
แม่อาบน้ำให้เรากับน้องก่อน แล้วพามานอน หลังจากนั้นแม่ก็ไปอาบน้ำ
แม่เล่าให้ฟังว่า ระหว่างอาบน้ำ มีความรู้สึกเหมือนมีใครคอยมองอยู่ตลอด
ด้วยความกลัว และเป็นห่วงเรากับน้อง เลยรีบอาบน้ำ พอเิปิดประตูห้องเข้ามา
สายตาก็เหลือบไปเห็นเงารางๆสีขาวๆ ของผู้หญิงผมยาวคนนึง ใส่ชุดสีขาวอยู่ในป่า
เพียงแว๊บเดียว ก็หายไป แต่ความรู้สึกขนลุก เย็นยะเยือกไม่ได้หายไปด้วย

แม่เลยรีบย้ายเรากับน้อง ที่ตอนนั้นหลับอยู่ ปลุกให้ตื่นแล้วย้ายไปนอนอีกห้องนอนนึง
โดยแม่เรา ก็ถอยสร้อยพระที่แม่ห้อยอยู่มาให้เราใส่
พร้อมกับโทรบอกพ่อให้พวกพ่อ ลุง อาผู้หญิง กลับมาบ้าน แต่ก็ยังไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง

คืนนั้นเลยมีการเปลี่ยนห้องนอนกัน โดยพ่อ ลุง นอนห้องเดิมของเรา ที่ติดกับป่า
ส่วนน้าผู้หญิง เรา น้อง และแม่ นอนอีกห้อง
พอเช้ามา ทุกคนก็ตื่นหมดแล้ว ยกเว้นน้องเรา ที่ยังคงนอนอยู่
เลยตัดสินใจว่าจะแพ็คกระเป๋าให้เสร็จก่อน แล้วค่อยปลุกน้องเรา
พอแพ๊คกระเป๋าเสร็จกันหมดแล้ว เอากระเป๋าออกมาวางไว้ที่ห้องนั่งเล่นรวม
อยู่ดีๆ น้องเราก็เดินลงบันไดมา เสียงเท้าดังตึกตัก เหมือนไม่ใช่เด็กอายุ 3 ขวบเดิน
ตาขวางและแดงก่ำ...และหยุดอยู่ที่กึ่งกลางชานพักบันได

ทุกคนต่างก็ตกใจ ถามน้องเราไปว่า น้องเราเป็นอะไร
แต่น้องเราไม่ตอบ แต่ตะคอกด้วยเสียงกร้าวร้าวว่า "พวกมึงทับที่กู พวกมึงมานอนในที่ของกู"
"กูจะเอานังนี่ไปอยู่ด้วย" เสียงนั้นแม้จะเป็นเสียงผู้หญิง แต่ก็ดูแห้บและกร้าวร้าว
ลุงเรามีสติดีที่สุด เลยรีบถอดสร้อยพระที่เราใส่อยู่ ไปคล้องคอน้องเรา
ทันทีที่สร้อยพระถูกสวมลงที่คอ น้องเราก็หมดสติ ล้มลง เกือบจะตกบันได โชคดีที่ลุงมือไว
คว้าตัวน้องเราไว้ได้

จากนั้นลุงกับพ่อก็ตัดสินใจเช็คเอ้าท์ออกจากบังกาโลทันที
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น ไม่มีใครอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร
และไม่มีใครอยากจะรุ้อีกเช่นกัน ว่าบังกาโลแห่งนั้น ยังอยู่ที่เดิมหรือไม่...ในทุกวันนี้

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz

เสียวสันหลังขึ้นทุกวันเลยนะคับเนี่ย *0*0* น่ากลั๊ววว น่ากลัววว ค้าบบ T^T ไม่กล้าแล้ว >< "" :!:

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
เห้อมีกำลังใจอัพต่อละมีคนมาอ่านฮ่าๆ

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz

วะ..วัน นี่มีอะไร ขนลุก ๆ มาให้มั้ยคับบ ?? ยะ .. หยะ .. อยากก หะ .. ให้ .. มะ .. มี จัง ละ..เอย นะ คับ บะ .. กึกกึก ๆ

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
เพลง PaRaDOX ไม่หลอนสักนิดเลยพี่เต้ย ฮ่าๆ

แต่กระทู้นี้หลอนว้ะ ฮ่าๆ ={}=

สงสัยจะแย่แล้วแฮะ ร่างกายเราโดนกระทู้นี้ไป เสื่อมโทรมเลย =_=

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz

สองวันนี้ ไม่มีเรื่องใหม่เลยนะคับเนี่ยย . . เฮ้ออ .. อดหลอนเลย ,,

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
ทำไมบอดกาตูนต้องเอาของน่ากลัวมาด้วย หนูกลัวนะ TwT

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
ม่ายนะน่ากลัวเกินไปเเล้ว ยิ่งเป็นพวกไปไหนเจอผีตลอดด้วย

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
อ่านจนตาลาย และขนแขนลุกแฮะ

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
*
* Select/Unselect multi-quote
* ตอบโดยอ้างข้อความ
* แก้ไข/ลบข้อความ
* ลบข้อความ
* ดูหมายเลข IP
* Report post to moderator or admin
* Lock post for new reports

Re: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'10/7/53Up Data!รวมฆาตกร!![18+]

ตั้งหัวข้อ by -:-Marshmalloly-:- on Fri Jun 11, 2010 11:07 pm
เปิดตำนาน 46 เรื่องผี และสิ่งลี้ลับในจังหวัดสงขลา


เรื่องที่จะนำมาเล่าต่อจากนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนได้รับทราบจากการออก เดินทางไปทำงานวิจัยตามสถานที่ต่างๆในจังหวัดสงขลา เเน่นอนล่ะว่าการออก เก็บข้อมูลงานทางไทยคดีศึกษาในเรื่องต่างๆ ตามสถานที่ต่างๆย่อมต้องได้รับทราบข้อมูลทั้งเชิงประจักษ์ เเละความเชื่อในเเนวทางเฉพาะถิ่น อาทิ ความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องภูติผี เเละดวงวิญญาณ(ลัทธิวิญญาณนิยม) เพื่อนๆหลายๆคนของผู้เขียนเลยขอให้ทำการ รวบรวมนำมาเล่าสู่กันฟัง(บ้าง) เพื่อเป็นประสบการณ์เเลกเปลี่ยนกัน

ปล. เชื่อก็ได้.....ไม่เชื่อก็ได้..........เเล้วเเต่จะคิดนะครับ


1.หน้า โรงเรียนอุดมศึกษาพานิช......สมัยก่อนล่วงผ่านเลยมามีเรื่องเล่ากัน ปากต่อปากจากผู้สูงวัยว่าที่เชิงสะพานตอนเช้าตรู่(ราวตี 4-6 โมงเช้า)มักจะมีสาวสวยผมยาวผิวขาวมากๆ ใส่ชุดขาวมายืนโบกรถอยู่ หากใครจอด รถรับ เธอจะหายไปพร้อมกับความซวย หรือเรื่องร้ายๆที่เข้ามาเยือนคนดวงซวย คนนั้น...บรื๋ออออ

2.บริเวณถนนศรีภูวนารถ มีซอยหลายซอยมากๆ มีอยู่ซอยหนึ่งคือซอย 12 ซอยนี้เองมีโรงเก็บหัวหอมร้างอยู่ซอยหนึ่ง เล่าลือกันว่าผีดุมากๆ มี เรื่องเล่าว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนมีลูกจ้างโรงเก็บหัวหอมถูกบานประตูเหล็กตก ใส่ ทับจนร่างกายเเหลก เละทั้งตัว ไม่มีใครสามารถจะนอนค้างคืนในโรงเก็บหัวหอมร้างซอย 12 ได้เพราะถูกหลอกกันมานับไม่ถ้วนเเล้ว

3.สะพานรถไฟ(มีราวเหล็ก)ที่ ตั้งอยู่ในบริเวณบ้านน้ำน้อย เคยมีคนตายกว่า 400 ศพ ที่สำคัญเป็นการตายโหง ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเชื่อกันว่าที่นี่เฮี๊ยนมาก คนเฒ่าคนแก่หลายคนเรียกสะพานรถไฟแห่ง บ้านน้ำน้อยว่าสะพานสายมรณะ บ้างก็ว่าเป็นสะพานผีตายโหง เคยมีเรื่องเล่า ในอดีตว่า เคยมีกลุ่มคนมายืนโบกรถอยู่ที่แถวๆสะพานรถไฟดังกล่าว โบกรถ เพื่อจะไปสงขลา พอรถให้ขึ้นมาปรากฏว่าระหว่างขับกลุ่มคนดังกล่าวก็อันตรธาน หายไปอย่างไร้ร่องรอย ทำเอาคนขับรถถึงกับจับไข้ไปหลายวัน

4.ซอยๆ หนึ่งข้างวัดโคกนาว กับห้างโลตัส เด็กหาดใหญ่เรียกกันว่า...." ซอยคุณยายสปีด " เชื่อกันว่าหากขับรถมอเตอร์ไซด์เข้ามาในซอยคนเดียวหลังเที่ยงคืนในคืนเดือน มืดเเล้วจะเจอกับผีคุณยายสปีดหลอกเอา ด้วยการกระโดดขึ้นมาซ้อนท้าย มอเตอร์ไซด์ ใครดวงซวยอาจถึงตายได้

5.ถนนสายหาดใหญ่-สงขลา(สายใหม่ )ก่อนถึงปั้นน้ำมันมีเรื่องสยองเล่าว่า เคย มีกลุ่มรถซิ่งถูกสายสลิงที่ขึงไว้กับต้นไม้ใหญ่ 2 ข้างทาง ตัดเอาคนนั่งซ้อนท้ายซึ่งเป็นผู้หญิงจนหัวขาดมา เเล้ว.........เชื่อกันว่าหากขับรถมาตอนกลางคืนเเล้วเห็นคนขับมอเตอร์ไซด์ ไม่มีหัว.....อย่ามอง หรือชี้มือไปหา เพราะท่านอาจจะซวยเอาได้

6.บริเวณ เปิดท้ายกรีนเวย์(ข้างป่าช้าโคกโพธิ์).......เเต่เดิมเป็นวังน้ำ ขนาดใหญ่ ชาวบ้านคลองเรียนเรียกกันว่า " วังน้ำดำ " เชื่อว่าเป็นดินเเดนอาถรรณ์ที่ผู้มีวิชาอาคมมักมาลองปล่อยของกัน

7.วัด โคกนาว......สมัยก่อนเรียก " โคก*** " เพราะเคยมีการฝังศพกันเป็นจำนวนมาก เเต่ปรากฏว่ามีน้ำท่วมขังในบริเวณ ดังกล่าวในปีหนึ่ง ชาวบ้านเลยจำต้องนำศพไปผูกติดเอาไว้กับกิ่งไม้ ใหญ่ บ้างก็ว่ามีนายพรานหลายคนไปยิงสัตว์ในโคก*** ถูกซากศพที่***เปื่อยตก ใส่จนขวัญหนีตามๆกัน ผู้เขียนเคยสัมภาษณ์ผู้เฒ่าผู้เเก่ท่าน หนึ่ง ท่านกรุณาเล่าให้ฟังว่า.....หากมืดค่ำจะไม่ยอมเดินทางผ่านโคก***เป็น อันขาดเพราะผีที่นี่หลอกเก่งที่สุด

8.หน้าสวนสาธารณะเทศบาลนคร หาดใหญ่..........เชื่อกันว่าเฮี๊ยนน่าดูชม...... เพราะจะต้องมีคนถูกรถชนตาย หรือรถทับตายทุกปี หลายคนบอกว่าเขาต้องการ " ตัวตายตัวเเทน "

9.หน้าวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่......บริเวณใต้สะพาน ลอยหน้าวิทยาลัย เชื่อกัน ว่ามีผีเฝ้าอยู่ใต้สะพานลอย.....ใครดวงถึงฆาตจะถูกผีผลักให้รถชนเพื่อเป็น ตัวตายตัวเเทนตน(เด็กเทคนิคหาดใหญ่เล่ากันภายใน)

10.เจ้าที่ที่ปก ป้องรักษาวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่นอกจากจะมีพระวิษณุกรรม แล้ว บริเวณเชิงเขา(ข้างแผนกช่างยนต์)ยังมีเจ้าที่เก่าของที่นี่ปรากฏให้ ได้เห็น ครู-อาจารย์ เรียกท่านว่า “ทวดตาเดียว” ส่วนนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่เรียก “เจ้าพ่อตาเดียว” ถือกันว่าท่านนั้นศักดิ์สิทธิ์มากๆ บูชาหรือเซ่นด้วย อะไรก็ได้ ยกเว้นเนื้อสุกร(เพราะท่านเป็นมุสลิม)

11.เจ้าที่ที่มหาวิทยาลัย ทักษิณเด็กที่นี่เรียกกันว่า......" ทวดเลียบ " เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่ ปรากฏในรูปของต้นไม่ใหญ่ เชื่อกันว่า หากใครขวัญอ่อน หรือต้องการเจริญก้าวหน้าในการเรียน หรือการงานด้านต่างๆให้บูชาท่านด้วยยาคูลท์ เท่านั้น

12.หน้าตึก เรียนอาคาร 13 ภายในมหาวิทยาลัยทักษิณ เชื่อกันว่ามีความเฮี๊ยนระดับสูงมากๆ เเละที่หน้า ตึกเรียนอาคาร 13 นี้เองที่มีฮวงซุ้ยขนาดใหญ่ตั้งอยู่หน้าตึก(น่าจะเป็นตึกเรียนตึกเดียวใน ประเทศไทยที่มีฮวงซุ้ยตั้งอยู่ด้านหน้า) เล่าลือกันว่าบางครั้งดึกๆจะมีคน เดินไปเดินมาที่หน้าฮวงซุ้ย มองนานๆเเล้วท่านก็จะหายไป

13.ภายใน มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา เชื่อกันว่าสระน้ำหน้าอาคารตึกอำนวยการ หลังเก่า.........เคยมีเด็กผู้หญิงที่มาเข้าค่ายที่นี่จมน้ำตาย เธอมักชอบ ออกมาเล่นงานคนที่ดวงถึงฆาตด้วยการดึง หรือลากลงไปในน้ำ

14.ภายใน มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา อาคารหอสมุด(หลังเก่า).........เชื่อกัน ว่าที่ บล็อก ฮ. นกฮูก มีดวงวิญญาณของนักศึกษาที่นี่สิงอยู่ ท่อนบนเป็นผู้ชายใส่ชุดช่าง อุตสาหกรรม ท่อนล่าง........ไม่มี !!!

15.เเถว ๆท้ายวัดคลองเรียน........ในอดีตยังมีต้นยางใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง บนต้น ยางปรากฏเป็นฝูง "ชิน" จำนวนมากลอยอยู่(ชิน หลายคนเชื่อว่าเป็นผีชนิดหนึ่ง รูปลักษณะเป็นดวงไฟสีขาวขุ่นใหญ่ประมาณเท่าลูกฟุตบอล-1 เมตร) ปัจจุบันเชื่อว่าต้นยางใหญ่ดังกล่าวไม่มีเเล้ว เเละน่าจะเป็นสถานที่ตั้ง ของหมู่บ้านร่มเย็น(ตรงบริเวณไหนไม่อาจคาดเดาได้เเน่ชัด)

16.รถเมล์ สายหาดใหญ่-สงขลา(เด็กหาดใหญ่เรียก รถโพธิ์ทอง)......เชื่อกันว่ามีรถโพธิ์ทองอยู่คันหนึ่งมักปรากฏหญิงสาวในชุด นักศึกษา ผมยาว เธอมักชอบนั่งอยู่เก้าอี้เกือบท้ายสุดในยามหัวค่ำ พอมอง ไปนานๆเธอจะหายไป

17.หลังวัดคลองเเห ตำบลคลองเเห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา.......เชื่อกันว่ามีเนินดินสูงอยู่เนินหนึ่ง เรียก...." โคกนกคุ่ม " ภายในเนินดินว่ามีทรัพย์สมบัติฝังอยู่ เเละมีผีนานาชนิดเฝ้าดูเเล อาทิ ผีปลาหัวกระโหลก

18.เเถววัดคูเต่า ตำบลเเม่ทอม สงขลา(วัดคูเต่าหลังเเรก....วัดสระเต่า)เคยมี ?เสือสมิง? อาศัยอยู่ใกล้บริเวณวัดได้เข้าทำร้ายสามเณรมรณภาพ 1 รูป คือสามเณรถูกกัดจนศีรษะขาดและถูกกินเป็นอาหารเป็นที่เล่าลืออย่างสยดสยอง ต่างๆนานา(เสือสมิง คือ เสือร้ายที่เชื่อกันว่าเกิดจากอิทธิฤทธิ์ของวิญญาณร้ายที่แปลงร่างขึ้นมา)

19.วัดโลการาม บ้านสะทิ้งหม้อ สิงหนคร สงขลา...........มีเจ้าที่ประจำวัดเป็นพญางูจงอางขนาดใหญ่ เรียก " ทวดตาหลวงรอง " เชื่อว่าใครบูชาเเล้วจะเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ.....นอกจากนี้ยังเชื่ออีก ด้วยว่าหากใครจะเข้ามาขโมยทรัพย์สมบัติของทางวัดจะโดนงูทวดเล่นงานจนต้องหนี กระเจิงทุกรายไป

20.หน้าอุโบสถวัดพรุเตาะ หาดใหญ่ สงขลา มีต้นโพธิ์อยู่ต้นหนึ่ง........เชื่อว่าต้นโพธิ์นี้เเต่เดิมคือเจ้าอาวาสวัด พรุเตาะ ครั้งหนึ่งท่านได้ใช้น้ำมันราดเเละเผาตนเองจนมรณภาพ เเล้วท่านก็ ได้เกิดใหม่เป็นต้นโพธิ์หน้าอุโบสถ(ชาวบ้านเขาเชื่อกัน)

21.บริเวณ หัวเขาแดง-สงขลา เชื่อกันว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยป้องปกดูแลอยู่ เรียกว่า ?ทวดหัวเขาแดง? เชื่อกันว่าท่านนั้นมักปรากฏกายให้ได้เห็นในรูปของจระเข้ ใหญ่มีนัยตาสีแดงเพลิง

22.น้ำตกโตนงาช้างที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสงขลา ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงา ช้าง ปรากฏมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ป้องปกอยู่เรียกว่า “ทวดตาขุนดำ-ทวดโต๊ะปะหวัง” ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงกับน้ำตกเชื่อ ว่าท่านนั้นมีรูปกายเป็นเสือดำขนาดใหญ่ มีเรื่องเล่าว่าราวปี พ. ศ. 2549 ได้มีนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์คนหนึ่งเดินทางมาเที่ยวน้ำตกโตนงาช้าง จนตก ช่วงเย็นชายคนดังกล่าวได้ออกเดินทางปีนขึ้นไปชมทัศนียภาพบนน้ำตกโตนงาช้าง จากนั้นจึงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เพื่อนๆที่มาด้วยกันจึงออกตามหาแต่ก็หา ไม่พบจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ของทางน้ำตกทราบช่วยกันตามหาจนช่วงดึกจึงต้องยก เลิกไปแล้วออกหาตอนเช้าอีกที หาอยู่ 3 วัน 3 คืนก็ยังหานักท่องเที่ยวชายชาวสิงคโปร์คนดังกล่าวไม่พบ จึงได้เชิญหมอไสย ศาสตร์มาทำพิธีกรรม “เข้าทรง” และพอได้รับข้อมูลมาว่านักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ที่หลงป่ายังมี ชีวิตอยู่ ประทังชีพด้วยการกินยอดไม้ และน้ำเป็นอาหาร เขาเพียงโดน “ผีบังตา” เอาไว้ท่านมิต้องเป็นห่วงแต่ประการใด ถึงเวลาเขาก็จะกลับมาเอง แต่หลังจาก นั้นก็ขอให้ช่วยสร้างศาลให้เราอยู่ด้วย หัวหน้าทีมค้นหาจึงสัญญาว่าหากหา เจอก็จะสร้างศาลสถิตบูชาให้ วันที่ 4 ที่ออกค้นหาจึงหานักท่องเที่ยวคนดังกล่าวจนพบแล้วสร้างศาลให้เรียกว่า “ทวดตาขุนดำ-ทวดโต๊ะปะหวัง”

23.ห้องเบอร์ 333 ณ โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่เยื้องๆกับฟาร์มจระเข้ เก่า.........เชื่อกันว่ามีผีฝรั่งสิงสถิตอยู่ หากใครจิตอ่อนเวลานอนอยู่บน เตียงจะถูกลากขา หรือบีบนวดขาให้ในเวลากลางคืน........ให้แก้เคล็ดด้วยการ นำเหรียญบาท 3 เหรียญมาวางไว้ตรงมุมบานประตูทางเข้าห้อง(ด้านใน)แล้วบอกกล่าวขอเช่าห้องกับ ผีเจ้าของห้องก่อนจึงจะอยู่ได้อย่างปกติสุข(เจอกันหลายคนแล้วห้องเบอร์นี้)

24.ชาว อำเภอเมืองสงขลา เชื่อกันว่า ณ เขารูปช้างมีผีฟ้า-เทวดาป้องปกรักษาอยู่เรียกกันว่า “ทวดช้าง” หรือ“พ่อทวดช้าง” เชื่อว่าเป็นดวงวิญญาณของควาญช้างและพญาช้างใหญ่ 2 เชือก(พ่อพลายแก้ว และแม่พังงา)

25.แถวน้ำตกโตนงาช้าง และย่านหูแร่ในสมัยก่อนเชื่อกันว่ายังมี ?ผีหลังกลวง? อาศัยอยู่เชื่อกันว่าผีหลังกลวงเป็นความเชื่อของชาวไทยภาคใต้มีลักษณะเป็น เหมือนกับคนธรรมดาแบบเราๆท่านๆนี่แหล่ะ แต่มันไม่ชอบใส่เสื้อผ้า(ประมาณว่าใส่แต่กางเกงที่ขาดรุ่งริ่ง)และที่สำคัญ คือมันมีสันหลังที่กลวงโบ๋วมีน้ำหนองไหลออกมาอย่างน่ากลัว ผีหลังกลวงชอบอาศัยอยู่ในแถบสถานที่ๆมีอากาศเย็นโดยเฉพาะในบริเวณน้ำตกต่างๆ ของทางภาคใต้ เชื่อกันว่ามันชอบกินของดิบๆเป็นนิสัย ส่วนกรรมวิธีในการหลอกคนก็คือ มันจะมาทำทีพูดจา-เจรจาเป็นมิตรกับผู้ที่ผ่านถิ่นที่อยู่ของมันในยามค่ำ คืน จากนั้นมันจะแกล้งคันหลังแล้วขอให้มิตรใหม่ช่วยเกาหลังให้........หัน หลังให้คนที่มันจะหลอกดู(หลายคนพอได้เห็นหลังอันกลวงโบ๋วของมันแล้วก็อาจจะ กลัวจนวิ่งหนีไปเลยก็มี) แต่ผีหลังกลวงในบางพื้นที่ เช่น ที่จังหวัดพัทลุงนั้นมันมีวิธีหลอกโดยการเดินมาตอนกลางคืนแล้วอาสาว่าจะช่วย ตำข้าวให้ พอเจ้าของบ้านเผลอมันจะฉวยโอกาสหักคอกับครกตำข้าว(คนพัทลุงในสมัยก่อนเลยไม่ ค่อยมีใครนิยมตำข้าวตอนเวลากลางคืน)

26.บ้านคูเต่า อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา ยังเชื่อว่าในเครื่องดนตรีของ ถิ่นตนมีผีชนิดหนึ่งสถิตอยู่เรียก “โต๊ะเคร็ง” เชื่อกันว่าโต๊ะเคร็งเป็นผีที่สถิตอยู่ในเครื่องดนตรีชนิด หนึ่งของทางภาคใต้ โดยหากมีการเซ่นสรวงที่ดีโต๊ะเคร็งจะทำให้การประกอบอาชีพทางด้านเป็นนัก ดนตรีเจริญก้าวหน้า แต่หากทำผิดกฎการเซ่นสรวงบูชาแล้วโต๊ะเคร็งจะนำพาความวิบัติมาให้ได้

27.เชื่อ กันว่าในคลองอู่ตะเภาในอดีตยังมีจระเข้ผีสิงสถิตอยู่ มีตำนานเล่า ว่า ในอดีตลำคลองอูตะเภายังอุดมสมบูรณ์มีจระเข้อาศัยอยู่กันอย่างหนา แน่น เนื่องด้วยมีปลาอย่างชุกชุมทำให้วิถีทางการดำเนินชีวิตของคน และจระเข้ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน จวบอยู่มายุคหนึ่งเกิดเหตุจระเข้กินคนเกิดขึ้น ลือว่าเป็นจระเข้ผีสิง ขึ้นมาจากน้ำ คาบ กัดกินเด็กที่เล่นน้ำบริเวณท่าน้ำวัดท่าแซไปหลายรายจนเป็นที่ประหวั่นพรั่น พรึงของผู้คนในสมัยนั้นเป็นยิ่ง จวบจนความเจริญได้เดินทางเข้ามาสู่ชุมชน คลองอูตะเภามากขึ้น ตำนานจระเข้กินคนเลยลบหายไปกับกาลเวลาเหลือเพียงคำเล่า ลือจากผู้เฒ่าผู้แก่ว่า......ในอดีตลำคลองแห่งนี้ยังเคยมีจระเข้ผีสิงที่ชอบ กินเด็กเป็นอาหารอาศัยอยู่

28.เชื่อกันว่าทะเลสาบสงขลายังมีนาง เงือก(ผีนางเงือก)อาศัยอยู่ ณ ยามใดก็ตามที่เป็นคืนจันทร์เดือนเพ็ญสว่างเต็มท้องน้ำ ผีนางเงือกจะขึ้นมา จากท้องน้ำ นั่งอยู่บนโขดหิน ใช้หวีที่ทำจากก้างปลาหวีผมอย่างน่าดู ชม.......ใครดวงถึงฆาตนางจะลากลงไปในท้องน้ำเอาบุรานายนั้นทำสามี

29.ถนน สายบ้านในไร่-เขากลอย(ทางโค้งข้อศอก)...........ยามค่ำคืน หากเห็นหญิงสาวรถมอเตอร์ไซด์เสีย ยืนคนเดียว.........อย่าชี้นิ้วไป หา-อย่ารับขึ้นรถ.........เพราะไม่ใช่คน!!!

30.ต้นไทรใหญ่หน้าวัด คลองเรียน มีอายุนานมากแล้ว(อาจจะถึง หรือเกิน 100 ปี).......ยามค่ำคืนมักปรากฏผู้คนมากมายพร้อมเทียนส่องสว่าง พวกเขามาหาตัว เลขก่อนวันหวยออกกันน่ะ แต่......หากเห็นผู้คนมากมายอันตรธานหายไปในพริบตา ที่ชี้มือไปหา.......
32.ข้างภาคศิลปะ ว.ค.สงขลา สมัยก่อนยังมีต้นมะพร้าวใหญ่อยู่ต้นหนึ่งข้างสระน้ำ(ปัจจุบันตัด ทิ้งแล้ว)........ยามดึกๆเด็กๆที่นี่อาจจะเห็นชายหนุ่มร่างกำยำผิวดำหัว หยิก ไม่ใส่เสื้อผ้า พุ่งดิ่งลงมาจากต้นมะพร้าว ลงสู่สระน้ำข้างภาค วิชา.......หายลงไปไม่โผล่ขึ้นมาอีกเลย.......ไม่ต้องตกใจ เขาแค่ทักทาย เด็กศิลป์น่ะ(สมัยก่อนเจอกันบ่อย)

33.ตำนานบ้านโลงศพ (หน้าซอย 10 ราษฏร์อุทิศ) เคยได้ยินเรื่องเล่าในหาดใหญ่อยู่เรื่องหนึ่งเมื่อหลายสิบปีก่อนคือเรื่อง ตำนานบ้านโลงศพ ว่ากันว่ามีบางส่วนของตัวบ้านดังกล่าวที่สร้างออกมาเหมือน รูปโลงศพยังไงยังงั้น เล่าลือกันอีกต่อว่าหลังจากเจ้าของบ้านได้เข้ามา อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวไม่นานก็ประสบอุบัติเหตุหมู่ยกครัว (บางคนก็ เล่าลือว่ามันเห็นเรื่องแปลกๆเวลาขับรถผ่านบ้านหลังดังกล่าว(ปัจจุบันบ้าน โลงศพกลายเป็นร้านถ่ายรูปไปแล้ว)

34.บ้านรูปยิ้ม (ท้ายซอย 7 ราษฏร์อุทิศ)เป็นภาพขาว-ดำ ของหญิงสาวนางหนึ่งที่เล่าลือกันว่าเธอผูกคอตายภายในบ้าน ได้มีการนำรูปภาพดังกล่าวมาแขวนไว้บริเวณหน้าบ้าน ลือกันอีกว่าหากใครดวง ซวยเวลาขับรถผ่านหญิงสาวในภาพจะยิ้มให้(รีบไปทำบุญล้างซวยโดยด่วน!!!)

35.ตำนาน ผีช่องแอร์ที่หาดใหญ่ เชื่อกันว่ามีโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองหาดใหญ่ที่เป็นต้นเหตุแห่งตำนานผีช่อง แอร์(ฆาตกรรมยัดช่องแอร์) และก็มีการเล่าลือกันว่าห้องดังกล่าวของโรงแรมที่เกิดเหตุมีอัตราความเฮี๊ยน สูงมากๆ!!! ใครมาพักมักเจอดีเข้าแทบทุกราย เส้นผมหญิงสาวร่วงลงมาจาก เพดาน เสียงประหลาดยามค่ำคืน กลิ่นศพ***โชยมาโดยหาสาเหตุไม่ได้!!! หลาย คนมาถามผมว่าแล้วมันที่ไหนกันล่ะโรงแรมนั้น แน่นอนว่าไม่ใช่โรงแรมกลาง เมืองหาดใหญ่แน่ โรงแรมนี้ร้างมากว่า 10 ปีตั้งแต่น้ำท่วงใหญ่คราวนั้นแล้ว หลายคนบอกว่ามันคือโรงแรมหาดใหญ่ออxxx…….จริงหรือไม่?

36.เรื่องผี ที่อาคาร 3 เด็กเทคนิครุ่นเก่าๆเขาเล่าลือกันนักกันหนาว่าแต่เดิมอาคาร 3 ในวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่เคยมีคนตกลงมาตาย(ครูหลายคนยืนยันว่าจริง)หากยืนมอง วิวทิวทัศน์อยู่ดีๆมีใครตกลงมาแล้วปรากฏว่าร่างนั้นอันตรธานหายไป ขอ ร้อง……..อย่าไปทักเดี๋ยวซวย!!!

37.ตำนานต้นจามจุรีให้โชค-หาดใหญ่ใน หลายคนเรียกกันว่าทวดแม่จามจุรี หรือทวดไกรสิงห์-ราชสีห์จามจุรีใหญ่อันเป็นที่สิงสถิตของทวดแม่จามจุรีตั้ง อยู่ ณ ปากทางเข้าถนนโชคสมาน 1 ตรงข้าม สภ.หาดใหญ่ ลือกันว่าต้นไม้ต้นนี้เคยเป็นที่ประหารชีวิตนักโทษในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 (ผู้คอตาย)สืบตำนานพอได้ว่าในราวปี พ.ศ. 2552 ภรรยาของตำรวจชั้นประทวนซึ่งทำงานอยู่ใน สภ.หาดใหญ่ ได้หลับลงด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการปฏิบัติภาระหน้าที่ประจำวันที่บ้านพัก ใกล้กับต้นจามจุรี ครั้งหลับก็ฝันไปว่ามีเจ้าแม่จามจุรี สถิตอยู่ ณ ต้นจามจุรีใหญ่ใกล้กับที่พักของตน เจ้าแม่จามจุรี หรือทวดแม่จามจุรี บอกว่าจะให้เลขเด็ดแต่มีข้อแม้ว่าขอให้ตั้งศาลให้ที่ใต้ต้นจามจุรีเป็นสิ่ง แลกเปลี่ยน ปรากฏว่าถูกหวยจริง แต่ผู้เป็นภรรยาของตำรวจชั้นประทวนนางนี้ ก็ยังไม่ปักใจเชื่อเสียเท่าใดนักจึงไปทำการบนกับทวดแม่จามจุรีว่าขอให้ถูก หวยเป็นครั้งที่สองแล้วจะสร้างศาลแก้บนให้ ปรากฏถูกหวยมาเลย์จริงดังที่ทำ การบนไว้ ต่อมาจึงมีการสร้างศาลเพียงตาไว้ให้สำหรับเป็นที่สถิตแก่ทวดแม่ จามจุรี ครั้งข่าวลือเรื่องทวดแม่จามจุรีให้เลขเด็ดได้อย่างแม่นยำยิ่งนัก รู้ถึงหูเซียนหวย นักเลงตัวเลขจากทั่วประเทศจึงแห่กันเดินทางมาเพื่อขอเลข เด็ด ไม่เว้นแม้แต่ชาวต่างประเทศที่ทราบข่าว อาทิ ชาวมาเลย์ สิงคโปร์ จีน เป็นต้น จามจุรีอันเป็นที่สิงสถิตของทวดแม่ จามจุรี ณ ปากทางเข้าถนนโชคสมาน 1 ตรงข้าม สภ.หาดใหญ่จึงแน่นขนัดไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาจากทั่วทุกสารทิศ ทั้งชาว ไทยและชาวต่างประเทศ อันมีสิ่งมุ่งหวังอันเดียวกันคือ “เลขเด็ด” นั่นเอง นอกจากเรื่องเลขเด็ดที่ชาวบ้านนิยมมาขูด ทาแป้ง ลูบหากันแล้วนี่ ยังปรากฏความเชื่ออีกอย่างหนึ่งที่แพร่สะพัดกันไปในวงกว้าง คือเชื่อกันว่า ทวดแม่จามจุรีนี้ไม่ชอบให้ใครมาตัดกิ่ง ก้าน ใบโดยไม่ได้รับอนุญาต ดังเรื่องเล่าลือที่ว่าก่อนหน้านี้ไม่นานเคยมีเจ้า หน้าที่ของเทศบาลนครหาดใหญ่ จะทำการตัดแต่งกิ่งไม้ข้างถนน ครั้งตัดแต่งมาเรื่อยๆจนถึงต้นจามจุรีใหญ่ ต้นดังกล่าวปรากฏว่าอุปกรณ์สำหรับตัดแต่งกิ่งไม้ไม่ทำงานอยู่นาน พยายาม อย่างไรก็ไม่สามารถซ่อมอุปกรณ์ดังกล่าวได้ จึงต้องล้มเลิกการตัดแต่งกิ่ง ต้นจามจุรีออกไป ครั้งเจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครหาดใหญ่มาทำการตัดแต่งกิ่ง ไม้ในครั้งที่สองก็ปรากฏว่าอุปกรณ์สำหรับตัดแต่งกิ่งไม้ไม่ทำงานเหมือนครั้ง แรก จึงเกิดการเล่าลือกันถึงเรื่องความเฮี๊ยนของต้นจามจุรีใหญ่ ณ ปากทางเข้าถนนโชคสมาน 1 กันอย่างกว้างขวาง
38.ตำนานผีทวดเฝ้าถ้ำ หรือตำนานทวดแหลมจาก เป็นความเชื่อของชาวบ้านตำบล เกาะใหญ่ อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา ตำนานทวดแหลมจากมีดังนี้กล่าวคือ ภายในอาณาบริเวณของหมู่ที่ 1 ตำบลเกาะใหญ่ อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา ปรากฏว่ามีถ้ำใหญ่อยู่ แห่งหนึ่งที่ซึ่ง ณ ถ้ำแห่งนี้เองชาวบ้านล้วนเชื่อกันว่าภายในถ้ำมีทรัพย์สมบัติ แก้วแหวนเงิน ทอง ถ้วยชามที่เป็นทองคำฝังเอาไว้อยู่ภายในเป็นจำนวนมาก และภายในถ้ำนี้ เองปรากฏว่ามีจระเข้ใหญ่ ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นจระเข้เจ้าและศักดิ์สิทธิ์
พร้อม ทั้งขนานนามให้ว่า “ทวดแหลมจาก” มีหน้าที่เฝ้าปกปักรักษาทรัพย์ สมบัติดังกล่าวอยู่ คนแต่ครั้งโบราณหรือชาวบ้านในสมัยก่อนจะสามารถเข้าไป หยิบยืมทรัพย์สมบัติต่างๆของทวดแหลมจากได้แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องนำมาคืนใน ระยะเวลาที่กำหนด ครั้งกาลต่อมามีคนพาลเข้าไปหยิบยืมทรัพย์ของทวดแล้วไม่ ได้นำไปคืนให้ ทวดแหลมจากจึงโกรธและปิดถ้ำลงด้วยหินก้อนขนาดใหญ่ตรงบริเวณ ปากทางเข้าถ้ำ ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครสามารถเข้าไปหยิบยืมทรัพย์สมบัติของ ทวดได้อีก แต่ชาวบ้านในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวก็ยังเชื่อว่าทวดแหลมจากในรูป ของจระเข้ทวดขนาดใหญ่ยังคงสถิตอยู่ภายในถ้ำแห่งนั้น
ทวดท่าข้าม หรือ ทวดพญาท่าข้าม

39.ตำนาน ทวดแม่กง ผู้ยิ่งใหญ่แห่งบ้านเกาะหมี มีเรื่องเล่าสืบทอดกันมาอย่างยาวนานถึงรูปแบบ-ความศักดิ์สิทธิ์ของทวดแม่กง เอาไว้ว่า................เมื่อนานมาแล้วยังมีชายชาวบ้านเกาะหมีคนหนึ่งนั่ง คุยกับเพื่อนที่ชานเรือน เขาท้าเพื่อนๆเอาไว้ว่าไม่เชื่อในตำนานความ ศักดิ์สิทธิ์ของทวดแม่กง............“ถ้าทวดแม่กงศักดิ์สิทธิ์จริง ขอให้ ขึ้นมาหาเขาบนเรือน เขาจะยอมให้ทวดกัดให้ถึงแก่ชีวิต” ขณะเดียวกันนั้นเองปรากฏว่ายังมีพญาคางคก(แม่กง)ใหญ่อยู่ตนหนึ่ง นั่งอยู่ บนโขดหินริมฝั่งน้ำ ณ บ้านเกาะหมี โจนทะยานลงจากโขดหินลงสู่แม่น้ำดังกล่าวเสียงดัง สนั่น.......กลายร่างเป็นเข้เจ้า(จระเข้ใหญ่)ในทันทีทันใด ว่ายตรงไปสู่ บ้านของชายหนุ่มผู้ท้าทาย ถึงริมฝั่งได้ ทวดแม่กงมองชายผู้ท้าทายด้วยสาย ตาที่โกรธอย่างถึงที่สุด พร้อมลำเลียงตนขึ้นสู่บนฝั่งพร้อมกลายร่างเป็นงู บองหลาขนาดใหญ่(งูจงอางขนาดใหญ่) เลื้อยตรงรี่เข้าไปจนถึงบ้านของชายผู้ ท้าทาย ขึ้นไป ณ เรือนชานได้ก็ตรงเข้าหาชายคนดังกล่าว.........เล่นเอาท่านเจ้าของบ้านถึงกับ หน้าถอดสี จำต้องยอมขอขมาโทษแก่ทวดแม่กงในทันทีทันใด ทวดจึงยอมกลับลงสู่แม่น้ำ มิทำร้ายเอา(สืบทราบว่าปัจจุบันชาวบ้านเกาะหมี ก็ยังคงเชื่อกันอยู่)

40.ตำนานผีนางรำไร้หน้าที่โรงเรียนใหญ่แห่ง หนึ่งแถวย่านหาดใหญ่ใน เป็นเรื่องเล่ากันในหมู่นักเรียนโรงเรียนนี้มานานแล้วว่าที่ตึกศูนย์ศิลป์ มักมีเหตุการณ์แปลกๆในค่ำคืนวันทางศาสนา เช่น วันพระ เป็นต้น กล่าวคือมักมีคนได้ยินเสียงดนตรีไทยแว่วมาตามลม บางคนที่ดวงไม่ค่อยดีอาจ เห็นนางรำไร้หน้ากำลังร่ายรำกันอย่างสวยงาม……บรื๋อ!!!

41.ตำนานผีผ้า ม่านในตึกศูนย์ศิลป์ที่โรงเรียนใหญ่แห่งหนึ่งแถวย่านหาดใหญ่ใน เรื่องเล่าของเด็กวงโยฯเก่าๆเขาเล่ากันให้ฟังมาว่า มักมีอะไรแปลกๆชอบเดิน ไปมาผ่านผ้าม่านในตึกหลังดังกล่าว เป็นเงาดำๆ แต่พอเดินตามมันไปมันก็จะหายไป เด็กรุ่นเก่าๆเขาเล่าให้ฟังมาน่ะ!!!

42.ตำนาน กระดาษข้อสอบที่เกินมาในอาคาร 2 ม.หาดใหญ่ เล่าลือกันในหมู่นักศึกษาว่า ณ ห้องสอบห้องหนึ่งในอาคารดังกล่าวอาจารย์จะต้องแจกข้อสอบให้เกินมา 1 ชุดเสมอๆเพราะเคยมีเหตุนักศึกษาตายในระหว่างสอบ หากข้อสอบไม่เหลือ 1 ชุดมักมีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นเสมอๆ(เด็กที่นี่เขาเล่าลือกันน่ะ)

43.เรื่อง ผีห้อยขา ม.หาดใหญ่ ลือกันในหมู่นักศึกษาว่า ณ ตึกๆหนึ่งใน ม.หาดใหญ่หากใครเห็นคนนั่งห้อยขาอยู่ที่เหนือบันไดตัวหนึ่ง อย่าไปร้องทัก (เพราะไม่ใช่คน)

44.ตำนานเสียงซอดังแว่ว ณ ห้องดนตรีไทยโรงเรียนวรนารีเฉลิม เชื่อกันในหมู่เด็กนักเรียนว่าเวลาดึกๆมักได้ยินเสียงดนตรีไทย(โดยเฉพาะ เสียงซอ)ดังแว่วมาจากตึกดังกล่าว(ชั้น 3) ข้างในมีใครอยู่หรือเปล่า? นั่นสิ ไม่รู้ เพราะประตูทางเข้ามันล็อคจากข้างนอก!!!
ปล. ผู้เขียนเองก็เคยไปฝึกสอนที่โรงเรียนนี้มาแล้ว ปรากฏว่าเจอเหตุการณ์ แปลกๆที่อาคารดังกล่าวเหมือนกัน กล่าวคือคืนนั้นต้องมาช่วยท่าน อ.สืบ แกะแผ่นโฟมที่ห้องศิลปะทั้งคืน ผมอยู่กับเพื่อนรวม 3 คนปรากฏว่าตกดึกเพื่อนๆอีก 2 คนออกไปกินกาแฟ ส่วนผมอาบน้ำ(ราวตี 2) ขณะอาบน้ำนั้นเอง(ห้องน้ำครูชั้น 2)มีคนมาเคาะประตูแรงๆ 2 ที พอใส่กางเกงได้ก้รีบออกมาดุปรากกว่าไม่เจอใคร มองออกไปที่หน้าต่างพบ เพื่อน 2 คนยังนั่งอยู่ร้านกาแฟ…….ในตึกมีผมอยู่คนเดียว และยังคงสงสัยอยู่ทุกวันนี้ ว่า ใครกันเล่าที่กรุณามาเคาะประตูห้องน้ำตอนตี 2 ส่วนเหตุการณ์เสียงซอดังแว่วก็เคยได้ยินนะ ได้ยินพร้อมกันทั้ง 3 คนตอนเที่ยงคืนตรง แต่พอออกหาต้นตอของเสียงกลับมาจากซอของ อ.สืบ ที่แอบเล่นอยู่ข้างล่าง(นอนดึกจริงนะท่าน)

45.เรื่องเล่าสายลมที่พัด แรงในห้องสมุดโรงเรียนวรนารีเฉลิม สายลมดังกล่าว มักพัดในเวลาช่วงเช้าทำให้เก้าอี้ในห้องสมุดหกล้มระเนระนาดไปหลายตัว ทั้งๆ ที่ปิดหน้าต่างหมดทุกบานแล้วนะ!!!


46.ตำนานผีวิ่งเล่น ที่อาคารเรียนอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ เล่าลือกันในหมู่นักศึกษาอิเล็กรุ่นเก่าๆ(ราวปี 36)ว่าชั้น 4 อาคารเรียนอิเล็กยามค่ำมักมีเรื่องแปลกๆ เคยมีเด็กที่เรียนภาคบ่าย(สมัย ก่อน)ช่วยปิดประตูอาคารเรียนให้อาจารย์ ตรวจเช็คว่าไม่มีใครอยู่ในตึกแล้ว แต่……ปรากฏว่าได้ยินเสียงคนวิ่งอยู่ข้างบน พอขึ้นไปดูอีกครั้งก็ไม่ปรากฏ ใครบนอาคาร ว่ากันว่าคนที่ดวงซวยมากๆอาจเจอเป็นเงา เป็นร่างให้ได้ เห็น อาทิ บริเวณแท้งเก็บน้ำอาคารอิเล็กที่หลายๆคนเคยเจอมาไง!!!

ceditความหลอนโดย l3nzTom

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz
"เป้" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากสะพานดำบางซื่อ

ตั้งแต่เด็กๆ มาแล้วที่ผมได้ฟังเรื่องผีจากพวกผู้ใหญ่ เขาบอกว่าผีที่เจ็บไข้ได้ป่วยตายตามธรรมชาติ จะไม่ดุร้ายเหมือนพวกผีตายโหง ทั้งโดนฆ่า และฆ่าตัวตาย โดนรถชนตาย ตกน้ำตาย รวมทั้งตายด้วยอุบัติเหตุสยองต่างๆ ไม่ว่าไฟไหม้ ตกต้นไม้ตาย... ล้วนแต่ทำให้เกิดผีหลอกวิญญาณหลอนทั้งนั้น

แต่ไม่ว่าผีอะไรก็ไม่เฮี้ยนสุดขีดเท่ากับผีรถไฟทับตาย! บ้านผมอยู่ใกล้ๆ สถานีรถไฟบางซื่อซะด้วย แถวๆ สะพานดำที่ข้ามคลองประปา... กลัวซีครับ ทำไมจะไม่กลัว!

สมัยผมเด็กๆ น่ะ เกิดเหตุรถไฟทับคนตาย หรือใครจะเรียกว่าชนคนตายก็ได้ แต่ที่แน่ๆ คือ มีลุงขี้เมาแกเดินกอดขวดเหล้าเป๋ไปเป๋มาจนโดนรถไฟชนกระเด็นไปเป็นสิบๆ วา เนื้อตัวกลายเป็นซากเละเทะ แดงเถือกด้วยเลือดสดๆ คนดูถึงกับลมใส่ไปตามๆ กัน

อีกรายเป็นคนจรจัด มานอนบนรางรถไฟใกล้ๆ หมู่บ้าน... รายนี้แขนขาขาดกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม่ช้าก็มีผู้หญิงแม่ลูกอ่อนทะเลาะกับผัว อุ้มลูกเดินร้องไห้เข้าไปหารถไฟที่พุ่งมาจากบางซื่อ... อะไรจะไปเหลือล่ะครับ?เฮ้อ...

ที่เล่ามานั่นเฉพาะที่ผมรู้เห็นเท่านั้น แถมผีดุบรรลัยอีกต่างหาก!

ตอนกลางคืนมีคนเห็นร่างเละเทะเดินกอดขวดเหล้าไปตามทางรถไฟ ส่วนรายคนจรจัดที่แขนขาขาดก็คลานโหย่งๆ ให้คนเห็นหลายราย ยิ่งแม่ลูกอ่อนนั่น เธอเดินอุ้มลูกร้องไห้น่าสงสาร... แต่คนดวงซวยที่มองเห็นเข้า ย่อมจะไม่เกิดความรู้สึกเวทนาใดๆ แต่สติแตกร้องจ้าเป็นเจ๊กตื่นไฟ วิ่งเตลิดเปิดเปิง ล้มลุกคลุกคลานทุกคนไป... สถานีใหญ่โตระดับชุมทางบางซื่อน่ะ มีรถไฟผ่านทั้งสายเหนือ สายใต้ สายอีสาน เสียงล้อบดครางดังคึ่กๆ ระคนกับเสียงหวูดกรีดแหลมแทบจะทั้งวันทั้งคืนก็ว่าได้ เรื่องอุบัติเหตุชนคนตายน่ะหนีไม่พ้นอยู่แล้วครับ

พอโตขึ้นหน่อย ผมก็เพิ่งสังเกตเห็นต้นโพธิ์ใหญ่อยู่ที่ริมคลองประปา ติดกับสะพานดำพอดี กิ่งใบแผ่กว้างหนาทึบ ชนิดมองเห็นแล้ววังเวงใจชอบกล ชาวบ้านเรียกเจ้าพ่อโพธิ์ เชื่อถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์น่าดู

ลุงม้วนคนข้างบ้านบอกผมว่า พวกผีที่ตายเพราะโดนรถไฟทับน่ะ ล้วนแต่ไปอาศัยอยู่ที่ต้นโพธิ์ กลายเป็นบริวารเจ้าพ่อไม่รู้ว่ากี่สิบรายมาแล้ว ก่อนนั้นก็เคยมีสาวอกหัก ดูเหมือนจะท้องอ่อนๆ ด้วย ปีนขึ้นไปผูกคอตาย เคยมีคนเห็นเธอนั่งร้องไห้อยู่ที่โคนต้นโพธิ์บ้าง ห้อยต่องแต่งอยู่บนกิ่งโพธิ์บ้าง... รายไหนก็รายนั้น เป็นวิ่งกระเจิงไม่คิดชีวิต บางรายถึงกับจับไข้หัวโกร๋นไปเลย

ผู้คนแถวนั้นที่นั่งรถไฟผ่านไปมาตอนกลางคืนก็เคยเล่ากันว่า ผีที่สะพานดำดุร้ายจนต้องเรียกว่าเฮี้ยนจัด อย่าบอกใครเชียว!

ขนาดรถไฟวิ่งมาเร็วๆ ยังมองเห็นอมนุษย์ห้อยโหนอยู่ตามราวสะพานเต็มไปหมด มีทั้งแขนขาขาด หัวขาด ตับไตไส้พุงห้อยร่องแร่ง บ้างก็แลบลิ้นปลิ้นตา จนถึงทำท่าจะชะโงกเข้ามาทางหน้าต่างรถไฟก็มี ผีดุอะไรจะปานนั้น?!สงสัยจะยังไม่ได้ไปอยู่กับเจ้าพ่อโพธิ์ หรือว่าได้รับอนุญาตให้มาตากอากาศ เลยฉวยโอกาสหลอกหลอนผู้คนเล่นดื้อๆ ยังงั้นเอง!

ผมกับเพื่อนอีกสองคนเคยเจอะเจอเรื่องขนหัวลุกเข้ากับตัวเอง เมื่อเรานั่งดวดดื่มในบ้านริมคลองประปาของเจ้าตุ๋ย หอบเหล้าโซดา น้ำแข็ง และกับแกล้มไปนั่งสำราญกันที่ระเบียงบ้าน ฝั่งนี้อยู่ตรงข้ามกับต้นโพธิ์ครับ

ตั้งแต่บ่ายแก่ๆ จนถึงใกล้ค่ำ คุยกันเรื่อยเปื่อยตามประสาขาเมา รถไฟเปิดหวูดจะเข้าจะออกสถานีทีก็หยุดเม้าธ์ทันที ฟังเสียงล้อเหล็กกระแทกรางโครมๆ เพลิดเพลิน ทำให้นึกถึงเสียงเพลงฉึกฉักรถไฟสมัยก่อน... บังเอิญเจ้าโก้เพื่อนอีกคนมองเห็นอะไรอีกฟากคลองแถวๆ ต้นโพธิ์... ร้องโวยวายขึ้นมาดื้อๆ

เสียงร้องของมัน ทำให้ผมกับเจ้าตุ๋ยหันขวับไปมอง... ภาพที่เห็นทำให้เย็นวาบไปทั้งตัว...ผู้ชายคนหนึ่งกำลังปีนป่ายอยู่บนกึ่ง โพธิ์พอดี!

จู่ๆ ร่างนั้นก็หล่นพรวดลงมาห้อยต่องแต่ง พวกเราลุกพรวดขึ้นยืนพร้อมๆ กัน เจ้าตุ๋ยร้องลั่นแต่ว่า... เฮ้ยๆ คนผูกคอตาย! เล่นเอาเพื่อนบ้านโผล่ออกมาดู ก่อนจะเผ่นไปขึ้นทางรถไฟข้ามสะพานไปที่ต้นโพธิ์ เหน็ดเหนื่อยแทบจะขาดใจตาย

นรกเป็นพยาน! ที่นั่นมีแต่ความว่างเปล่า ยอดโพธิ์สะบัดกิ่งใบซู่ซ่า ฟังแล้วเยือกเย็นชวนให้วังเวงใจ...จะว่าเมา หรือตาฝาด แต่เราก็เห็นพร้อมกันทั้งสามคน!!!!

description'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!! EmptyRe: 'สยองขวัญ+ลึกลับ'[18+] update 3/11/53 !!!!!!!!!!!

more_horiz

อ้ากก !! อยากถอนสมองตัวเองแล้วเอาอันใหม่ ๆ มาใส่แทนเลยคับ หดหู่แล้ว ชีวิตผม สงสัยว่า ประมาณ 1 - 2 ปี จะกลายเปน ปรมาจาร ปราบ ผี แช่งชาติ

รึป่าวคับเนี่ย ?? สยองขึ้นไปอีกค้าบบบบ สยองขึ้นไป๊ เอ๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!

ขอบคุณคับบ .. ,, -"
privacy_tip Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
power_settings_newLogin to reply